ตามที่ประเทศไทยได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ วาระปี พ.ศ. 2568-2570 (United Nations Human Rights Council: UNHRC) จากการลงคะแนนเลือกตั้งในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 นั้น

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) และองค์กรสิทธิมนุษยชนตามที่แนบข้างท้ายนี้ ขอแสดงความปรารถนาดีและชื่นชมที่ประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในเวทีสิทธิมนุษยชนระดับโลก อันแสดงให้เห็นว่าประเทศสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งประชาชาติเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและค่านิยมประชาธิปไตย พร้อมกันนี้ สสส.และองค์กรแนบท้าย ขอเสนอความคิดเห็นต่อรัฐบาลในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนให้สมเกียรติตามที่ได้รับ ดังต่อไปนี้
- ให้รัฐบาลใช้กลไกส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนหลัก ตามวัตถุประสงค์ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน
โดยเฉพาะกลไกพิเศษ (Special Procedure) ติดตามและรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งในลักษณะสถานการณ์รายประเทศ รายประเด็นสิทธิมนุษยชน กระบวนการรับและพิจารณาข้อร้องเรียนซึ่งเป็นกลไกในการรับและพิจารณาข้อรองเรียนแบบลับเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรง ต่อเนื่อง และเป็นระบบ และกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (UPR) ที่ให้สมาชิกสหประชาชาติ ทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนระหว่างกัน ทั้งนี้โดยให้ความสำคัญต่อสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง สิทธิของผู้ลี้ภัย แรงงานข้ามชาติ และประเด็นแหลมคมอื่นๆ
2. ให้รัฐบาลยืนยันที่จะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศ การสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนเพื่อสร้างความเข้าใจและส่งเสริมศักยภาพ (capacity building) ในการดำเนินการตามมาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชนของไทย การเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพทางวิชาการ ผลักดันการขับเคลื่อนหลักการชี้แนะเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) และมาตรฐานระหว่างประเทศอื่นๆ ที่ส่งเสริมการดำเนินการที่เคารพสิทธิมนุษยชนรวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และจะทำงานร่วมกับนานาประเทศในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการนำประชาธิปไตยและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสันติภาพกลับสู่เมียนมาร์และประเทศสมาชิกอาเซียน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44-45 และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
สสส. และองค์กรแนบท้าย หวังว่าข้อคิดเห็นนี้จะได้รับการพิจารณาดำเนินการในโอกาสแรกที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ เพื่อร่วมกับภาคประชาชนในการส่งเสริมและเคารพสิทธิมนุษยชนอันเป็นรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตยและสันติภาพในประเทศ ในภูมิภาคอาเซียนและโลกสืบไป
ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2567
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF)
มูลนิธิส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Pro-rights)
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)

![[PR]อัยการสูงสุดสั่งยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรม กรณียุติการสืบสวนเหตุชัชชาญ บุปผาวัลย์ ถูกอุ้มหาย – ฆาตกรรม](https://i0.wp.com/crcfthailand.org/wp-content/uploads/2025/12/24-12-68-1-1.png?resize=218%2C150&ssl=1)
![[PR]ศาลกัมพูชาสั่งยุติการสอบสวนกรณีการบังคับสูญหาย “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2563](https://i0.wp.com/crcfthailand.org/wp-content/uploads/2025/12/23-12-68-1.png?resize=218%2C150&ssl=1)
![[PR]ลงโทษจำคุก 1 ปี ครูฝึก 2 นาย กรณีพลทหารกิตติธร เสียชีวิตหลังเข้ารับการฝึกเมื่อปี 2566](https://i0.wp.com/crcfthailand.org/wp-content/uploads/2025/12/18-12-68-1.png?resize=218%2C150&ssl=1)
![[PR]ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 5 นัดฟังคำพิพากษา กรณีพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต เสียชีวิตหลังฝึกเกณฑ์ทหารเมื่อปี 2566](https://i0.wp.com/crcfthailand.org/wp-content/uploads/2025/12/17-12-68-1.png?resize=218%2C150&ssl=1)
![[PR]คืบหน้า! รมต. ยุติธรรมรับทราบกรณีส่งกลับ “อี ควิน เบดั๊บ” มอบหมายกรมคุ้มครองสิทธิฯ ดำเนินการต่อ](https://i0.wp.com/crcfthailand.org/wp-content/uploads/2025/12/15-12-68-1.png?resize=218%2C150&ssl=1)