วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ นัดฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเขตอำนาจศาล และนัดสืบพยานจำเลยครูฝึกและผู้ฝึกทหารใหม่ต่อเนื่องที่เลื่อนนัด เนื่องจากได้รับแจ้งว่าพยานจำเลยมีภารกิจต้องช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย  ในคดีหมายเลขดำที่ ปท. 1/2566 ข้อหาร่วมกันกระทำการโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 กรณีพลทหารกิตติธร เวียงบรรพตเสียชีวิต หลังเข้ารับการเกณฑ์ทหารใหม่ พลัดที่ 1/66 ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย 

โดยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 ก่อนนัดสืบพยานโจทก์เพียงหนึ่งวันคือในวันที่ 9 กันยายน 2567 จำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอวินิจฉัยชี้ขาดเขตอำนาจและคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยขัดหรือแย้งตามมาตรา 121 ฯ โดยศาลยกคำร้องทั้งสอง เนื่องจาก ก่อนการกำหนดนัดสืบพยานคดีนี้ จำเลยได้ยื่นคำร้องดังกล่าวมาเพื่อขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องเขตอำนาจศาลแล้ว ต่อมาจำเลยได้ยื่นอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานศาลยุติธรรมได้ยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยแล้ว ตามคำสั่งศาลในทำนองว่า “จำเลยทั้งสองใช้สิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในเรื่องเดียวกัน อยู่ระหว่างการวินิจฉัย  จึงให้รอการสั่งคดีเกี่ยวกับคำร้องไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเด็ดขาดมีผลผูกพันศาล และทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องนี้ก่อนสืบพยานโจทก์เพียงหนึ่งวัน พฤติการณ์นี้มีลักษณะประวิงคดีให้ชักช้า จึงให้ยกคำร้อง”

คดีนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์ พลทหารกิตติธร เวียงบรรพต ทหารเกณฑ์พลัดที่ 1/66 ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย เข้ารับการเกณฑ์ทหารตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 ภริยาได้เดินทางไปรับพลทหารกิตติธรและพบว่ามีอาการอิดโรย ตัวซีด ไข้ขึ้น มีอาการร้อนและหนาวสลับกัน ซึ่งจากการสอบถามของญาติแจ้งว่าพลทหารกิตติธร มีอาการป่วยมาหลายวันและพยายามขอให้ทางค่ายส่งมารักษาที่โรงพยาบาล แต่ไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ภริยาของพลทหารกิตติธรเห็นอาการของพลทหารกิตติธรหนักมาก จึงยืนกรานขอให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราชในระหว่างวันที่ 14-15 กรกฎาคม 2566 ก่อนที่พลทหารกิตติธรเสียชีวิตในวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ด้วยภาวะคือติดเชื้อในกระแสเลือด  อนึ่งเมื่อวันที่ 4-5 พฤศจิกายน 2567 ที่กรุงเจนีวา มีการทบทวนสถานการณ์การป้องกันการทรมานของประเทศไทยที่องค์การสหประชาชาติ  คดีปท 1/2567 ได้ถูกรายงานว่าเป็นคดีภายใต้พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เป็นคดีแรกนับแต่มีพรบ.ฉบับนี้บังคับใช้เมื่อเดือนกพ. 2566 และมีการทวงถามถึงประสิทธิภาพการสืบสวนสอบสวนและความเข้าใจของนิยามและการตีความตามพรบ. ฉบับนี้และตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน (UN Convention against Torture) ซึ่งอาจยังเป็นอุปสรรคในการนำคนผิดมาลงโทษและเป็นมาตราการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีกต่อการฝึกทหารใหม่ทุกคน ทั้งนี้การเกณฑ์ทหารในประเทศไทยยังเป็นการบังคับและมีรายงานว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้นในฝึกทหารใหม่ต่อเนื่อง

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจร่วมกันติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและการสืบพยานจำเลยในนัดนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าพลทหารกิตติธรและครอบครัวที่เดินหน้าต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมจะได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริงและได้รับการชดใช้เยียวยา รวมถึงสามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย  เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นกับพลทหารเกณฑ์คนใดได้อีก และยุติวัฒนธรรมลอยนวลของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างเป็นจริง

Author