สิตานัน พี่สาววันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือ กมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐ

สิตานัน พี่สาววันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือ กมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐ

ขอให้ตรวจสอบกรณีถูกคุกคาม ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ 

พรุ่งนี้ (18 กันยายน 2567) เวลา 13.00 น. สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จะเดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือต่อรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย  ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่สิตานัน ถูกติดตาม คุกคาม ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ หลังออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมทางการเมืองและผู้ลี้ภัยไทยถูกบังคับสูญหายที่ประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2563

สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563 วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองถูกลักพาตัวขึ้นรถตู้สีดำที่บริเวณแม่โขง การ์เดน คอนโดมิเนียม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งก่อนการถูกบังคับให้สูญหาย วันเฉลิมเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองในประเทศไทย ได้ลี้ภัยไปอาศัยอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา หลังการรัฐประหารโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอซา และพวก (คสช.) ในปี 2557  

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมานับแต่วันเฉลิม ถูกบังคับให้สูญหาย สิตานัน ออกมาเรียกร้องความยุติธรรม และตามหาวันเฉลิมมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่าในระหว่างการออกมาเรียกร้อง สิตานัน กลับถูกติดตาม คุกคาม ข่มขู่ และปิดกั้นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการตามหาน้องชาย จึงขอให้ประธานกมธ. ตรวจสอบข้อเท็จจริงและค้นหาความจริงที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการติดตามคุกคาม ปิดกั้นการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับนายวันเฉลิม มากกว่า 3 ครั้ง ที่มาในรูปแบบมีเจ้าหน้าที่ปิดล้อม  จำกัดสิทธิ เสรีภาพ และห้ามจัดแสดงงานรำลึกของวันเฉลิม ในวันผู้สูญหายสากล เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ของสิตานันมาโดยตลอด   เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการทางกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป 

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจ ร่วมติดตามการยื่นหนังสือของสิตานันในวันและเวลาดังกล่าว เพื่อร่วมยืนหยัดเคียงข้างครอบครัวของผู้ถูกบังคับให้สูญหายในการเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรม และเพื่อให้มั่นใจว่าสิตานันและครอบครัวจะสามารถเดินหน้าค้นหาชะตากรรมของวันเฉลิมและเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป โดยไม่มีหน่วยงานรัฐใดสามารถคุกคาม ข่มขู่ ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ สิตานัน รวมถึงครอบครัวของผู้ถูกบังคังให้สูญหายทุกครอบครัวที่ต้องออกมาเรียกร้องความยุติธรรมได้อีกต่อไป