[:th]CrCF Logo[:]

[:th]Fact Sheet คดีอาจารย์วุฒิ บุญเลิศ ผู้นำกะเหรี่ยงที่ต่อสู้ร้องเรียนสิทธิชุมชนและสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองกะเหรี่ยงในเขตตะนาวศรีและอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถูกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน[:]

Share

[:th]

ประวัติอาจารย์วุฒิ บุญเลิศ อายุ 65 ปี

  • อาจารย์วุฒิ บุญเลิศ เป็นผู้นำชาวกะเหรี่ยงที่ออกมาต่อสู้ร้องเรียนเพื่อสิทธิชุมชนและสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิมในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน   โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2554 ในช่วงที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรเป็นหัวหน้าอุทยานถูกกล่าวหาว่านำกำลังเผาบ้านยุ้งฉาง และขับไล่ชาวบ้านรวมทั้งปู่คออี้ มีมิ ออกจากบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดินซึงชาวบ้านอยู่อาศัยตามวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงมาหลายช่วงอายุคน
  • ที่ปรึกษาเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี
  • พ.ศ.2552  ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง กระทรวงวัฒนธรรม
  • พ.ศ.2553 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองประธานอนุกรรมการฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรมเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง กระทรวงวัฒนธรรม

ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์วุฒิ (จำเลยคดีนี้) และนายชัยวัฒน์ (โจทก์ร่วม)

  • พ.ศ. 2554 อาจารย์วุฒิ ได้ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน โดยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม  2554  อาจารย์วุฒิเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร้องเรียนกรณีที่ชาวบ้านถูกนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรซึ่งเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในขณะนั้น ใช้กองกำลังติดอาวุธ เข้าเผา ทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทำลายทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดินที่เป็นพลเรือน ไร้อาวุธ กว่า 98 หลัง แล้วบังคับโยกย้ายชาวกะเหรียงดังกล่าวออกไปจากบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ภายใต้ “ยุทธการตะนาวศรี”
  • ต่อมาเมื่อวันที่ 17 กันยายน  2557 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ออกรายงานผลการตรวจสอบที่ 317/2557 ระบุว่าการเข้าเผา ทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทำลายทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดินเป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และต่อมาศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาว่าเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวได้กระทำเกินสมควรแก่เหตุ
  • ปี พ.ศ. 2557 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมอบหมายเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความดำเนินคดี แกนนำเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมพฤ โอโดเชา และ วุฒิ บุญเลิศ ฐานยุยงให้ชาวกะเหรี่ยงกรุกป่าแก่งกระจาน  ปัจจุบันยังไม่เป็นคดีขึ้นสู่ศาล
  • อาจารย์วุฒิฯ ได้เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัลองค์กรดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี2559 จากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในนามเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเขตงานตะนาวศรี ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน ประสานงาน ในการช่วยเหลือชุมชนชาวกะเหรี่ยงด้านสิทธิชุมชนและมีผลงานในการประชาสัมพันธ์ให้สังคมได้รับทราบสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของชาวกะเหรี่ยงมากขึ้น  

สาเหตุที่นายชัยวัฒน์ดำเนินคดีกับอาจารย์วุฒิ

· เชื่อว่าการฟ้องคดีอาจารย์วุฒิ ของนายชัยวัฒน์ฯ เป็นการฟ้องเพื่อปิดปากหรือยับยั้งไม่ให้เรียกร้องสิทธิของชาวกะเหรี่ยงข้อความที่อาจารย์วุฒิเผยแพร่ในเฟสบุค ไม่มีชื่อของนายชัยวัฒน์ โจทก์ร่วมในคดีนี้แต่อย่างใด เป็นเพียงข้อความเกี่ยวกับการบุกรุกครอบครอง
พื้นที่ป่าสงวนโดยการก่อสร้างรีสอร์ทแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ใกล้อุทยานแห่งชาติ
แก่งกระจาน
· ซึ่งนายชัยวัฒน์อ้างว่าข้อความที่อาจารย์วุฒิได้เผยแพร่ในเฟสบุคนั้น มีความหมายทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าตนในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ บุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าสงวน โดยก่อสร้าง    รีสอร์ต ชื่อไร่ชัยราชพฤกษ์ โดยให้พี่ชายถือสิทธิครอบครองแทน (นายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร)”

ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจารย์วุฒิทำงาน

สิทธิชนเผ่ากะเหรี่ยง การจัดการทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมทั้งสิทธิการศึกษาของชนเผ่ากะเหรี่ยง


Timeline คดี

โพสต์และแชร์ข้อความ 28 สิงหาคม 2559

อาจารย์วุฒิได้แชร์ข้อความเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2559     ในเฟสบุ๊คชื่อ wut Boonlert มีข้อความตามข้อกล่าวหาดังนี้ “ไร่ชัยราชพฤกษ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่สำรวจถือครองตามมติครม.30มิ.ย.41 รวม 100ไร่ การตรวจสอบและร้องเรียนโดยกรมป่าไม้ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเมื่อวันที่24มิถุนายน 2559 อธิบดีกรมป่าไม้(นายชลิศ สุรัสวดี)ได้มีหนังสือรายงานไร่ชัยราชพฤษ์ระบุชัดว่าไร่ชัยราชพฤกษ์มีเนื้อที่ประมาณ100ไร่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือและป่ายางน้ำกลัดใต้ ตำบลสองพี่น้องอำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี อยู่ในพื้นที่การสำรวจถือครองตามมติครม.30มิ.ย.41มีนายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษรเป็นผู้ถือครองเนื้อที่ประมาณ73ไร่ (พิกัด47P057298E1418060 N(DATUMWGS84) ซึ่งกรมป่าไม้ต้องทวงคืนพื้นที่แต่อธิบดีกรมป่าไม้กลับเพิกเฉยไม่สั่งการใดๆให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายรวมทั้งยังขัด คำสั่งคสช.64/2557 ข้อ3.ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามผลคดีป่าไม้และดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกทำลาย ให้คืนสภาพป่าไม้ให้สมบูรณ์ดังเดิม โดยประสานงานกับหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคประชาชนและองค์กรชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการอย่างจริงจัง” ซึ่งจะต้องถูกลงโทษตามข้อ4 “เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดปล่อยปละละเลยหรือเข้าไปมีส่วนร่วมกับการกระทำความผิดตามกรณีดังกล่าวข้างต้นจะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาดโดยทันที” ผมจึงเรียกร้องให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการตามคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 ต่ออธิบดีกรมป่าไม้กับพวกฯโดยด่วนที่สุดต่อไป”

วันที่ผู้เสียหายเห็นข้อความ 11 กันยายน 2559

นายชัยวัฒน์  ลิ้มลิขิตอักษร ได้เห็นข้อความที่อาจารย์วุฒิ บุญเลิศส่งต่อและแชร์ ที่ ห้างแม็กซ์แวลู แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

วันที่มีการแจ้งความ 26 ตุลาคม 2559

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรมอบอำนาจให้ผู้แทนมาดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ กล่าวหาอาจารย์วุฒิฯ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ที่ สน.คันนายาว

รับทราบข้อกล่าวหา 18 พฤษภาคม 2560

อาจารย์วุฒิเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อ ร้อยตำรวจเอกธนศักดิ์ พ้องเสียง รองสารวัตรสอบสวน สน.คันนายาว โดยถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยอาจารย์วุฒิปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

อาจารย์วุฒิร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการจังหวัดมีนบุรี 21 กุมภาพันธ์ 2561

ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมขอให้อัยการสอบเพิ่มเติมและสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาต่ออัยการจังหวัดมีนบุรี ในคดีที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลคันนายาวได้รับแจ้งความจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ให้ดำเนินคดีกับนายสมัคร ดอนนาปีกับพวก ในคดีอาญาที่ 1769/2559   เนื่องด้วยตนไม่ได้โพสต์ข้อความที่ถูกแจ้งความแต่อย่างใด ไม่มีพยานหลักฐานมาแสดงว่าในช่วงวันเวลาดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ด้วยการโพสต์ข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด อีกทั้งข้อความดังกล่าวเป็นเนื้อความที่เกิดจากการตรวจสอบของสื่อมวลชนและถูกรับรู้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งอาจเข้าข่ายกลั่นแกล้งและการใช้สิทธิทางศาลโดยไม่สุจริตต่ออาจารย์วุฒิ บุญเลิศ

อัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดมีนบุรี 1 สิงหาคม 2561

อาจารย์วุฒิถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามมาตรา   328 และต้องประกันตัวในวงเงิน 50,000 บาท อัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดมีนบุรี 1 สิงหาคม 2561

นัดพร้อมเพื่อแจ้งการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ 14 สิงหาคม 2561

อาจารย์วุฒิและทนายความเดินทางมาศาลซึ่งศาลได้อธิบายสิทธิต่างๆให้ทราบตลอดจนขั้นตอนในการดำเนินคดี ประกอบกับนายวุฒิแถลงต่อศาลประสงค์จะต่อสู้คดี

นายชัยวัฒน์ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ และขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 22 ตุลาคม 2561

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2561นายชัยวัฒน์ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ และขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2,000,000 บาท

นัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐาน 28 มกราคม 2562

สืบเนื่องจากนายชัยวัฒน์ได้ขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2,000,000 บาท ศาลจึงให้นายวุฒิได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ โดยให้จัดทำคำให้การในส่วนนี้ตามกำหนดระยะเวลาที่ศาลอนุญาต

ร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด 30 มกราคม 2562

นายสุรพงษ์ กองจันทึก ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากอาจารย์วุฒิ ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุดให้มีการตรวจสอบกรณีสั่งฟ้องอาจารย์วุฒิ และร้องขอให้มีการถอนฟ้อง

นายวุฒิยื่นคำให้การกรณีนายชัยวัฒน์อ้างว่าตนได้รับความเสียหายทางแพ่งด้วยเป็นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท 15 กุมภาพันธ์ 2562

อาจารย์วุฒิให้การปฏิเสธว่าตนไม่ได้หมิ่นประมาทนายชัยวัฒน์

1.ไม่ได้ใส่ความนายชัยวัฒน์ตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใดที่จะทำให้นายชัยวัฒน์ได้รับความเสียหาย 2.ข้อความที่ได้เผยแพร่หรือส่งต่อเป็นข้อความที่กล่าวถึงกิจการบ้านเมืองกิจการท้องถิ่นที่ติชมด้วยความเป็นธรรมและเพื่อรักษาประโยชน์สาธารณะ

อัยการสูงสุดตอบว่าได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว กำลังตรวจสอบ 16 พฤษภาคม 2562

หนังสือแจ้งจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่าได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว

นัดสืบพยานโจทก์ 10 กันยายน 2562

อัยการและนายชัยวัฒน์จะนำพยานเข้าสืบ ได้แก่

1.นายชัยวัฒน์  ลิ้มลิขิตอักษร

2.ผู้รับมอบอำนาจจากนายชัยวัฒน์ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ

3.พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนดังกล่าว

4.เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้

นัดสืบพยานจำเลย 11 กันยายน 2562

อาจารย์วุฒิจะนำพยานเข้าสืบ ได้แก่

1.นายวุฒิ บุญเลิศ

2.นายสมัคร ดอนนาปี

3.นายสุรพงษ์ กองจันทึก

[:]