DSI รับหนังสือร้องทุกข์ สองลูกชายสหายภูชนะและสหายกาสะลอง สองลูกชายสหายภูชนะและสหายกาสะลอง หวังรู้ตัวผู้กระทำผิด หลังพ่อถูกอุ้มหายและพบเป็นศพที่ริมแม่น้ำโขง ปี 61
วันนี้ (30 กันยายน 2567) เวลา 9.00 น. บุตรชาย “สหายภูชนะ” หรือนายชัชชาญ บุปผาวัลย์ และบุตรชาย “สหายกาสะลอง” หรือนายไกรเดช ลือเลิศ พร้อมด้วยทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้เดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีผู้แทน นายอังสุเกตุ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญ ดีเอสไอ รวมสามคน มารับหนังสือดังกล่าว จากกรณีที่สหายกาสะลอง และสหายภูชนะ ถูกบังคับให้สูญหาย และถูกพบศพในเวลาต่อมาที่บริเวณริมแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม เมื่อปี 2561

หนังสือร้องทุกข์มีใจความว่า ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับทั้งสองกรณีเป็นคดีพิเศษเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายในทุกข้อหากับผู้ที่กระทำผิดจนถึงที่สุด และดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (พ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหายฯ)
สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561 มีชาวบ้านที่บริเวณริมแม่น้ำโขง ม.2 ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้พบศพชายไม่ทราบชื่อ ต่อมาพิสูจน์ทราบว่าศพดังกล่าวคือ นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ และต่อมาในวันที่ 29 ธันวาคม 2561 พบศพชายไม่ทราบชื่อในลักษณะเดียวกัน ที่ฝั่งแม่น้ำโขงบ้านสำราญเหนือ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ต่อมาพิสูจน์ทราบว่าศพดังกล่าวคือ นายไกรเดช ลือเลิศ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันยังมีข่าวรายงานว่ามีผู้พบเห็นร่างที่สงสัยว่าจะเป็นศพของสุรชัย ซึ่งพบในแม่น้ำโขงบริเวณท่าจำปา อำเภออุเทน จังหวัดนครพนม แต่ต่อมาหายไปและปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมผู้ติดตามอีก 2 คน คือ สหายภูชนะ และสหายกาสะลอง สูญหายไปพร้อมกัน และไม่มีใครสามารถติดต่อทั้งสามคนได้อีกเลยจนกระทั่งมีการพบศพ
สภาพศพของสหายภูชนะ และสหายกาสะลอง ถูกฆาตกรรมในลักษณะเช่นเดียวกัน คือ ถูกห่อด้วยกระสอบป่านเย็บติด 2-3 กระสอบแล้วหุ้มด้วยตาข่าย นอกจากนี้ยังถูกใส่กุญแจมือไขว้ไว้ด้านหน้า ลำคอถูกรัดด้วยเชือกป่าน ใบหน้าถูกทุบด้วยของแข็งและบริเวณท้องถูกเปิดตามแนวยาวตั้งแต่ลิ้นปี่จนถึงหัวหน่าว อวัยวะภายในบ้างส่วนหายไป และพบว่าท้องถูกยัดด้วยเสาปูนยาวประมาณ 1 เมตร
นายก่อการ บุปผาวัฏฏ์ บุตรชายของสหายภูชนะ กล่าวถึงความคาดหวังของตนว่า “หวังว่าการมาที่นี่ครั้งนี้จะสามารถจับตัวคนที่ฆาตกรรมพ่อได้” หลังปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินคดีเพื่อนำผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษ และยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ลักษณะการฆาตกรรมสหายภูชนะ และสหายกาสะลอง ถือเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และทำลายศพเพื่อให้ได้รับความอับอาย อีกทั้งการฆาตกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ปิดลับ จึงอาจเกิดจากผู้มีอิทธิพลที่มีอำนาจในการอำพรางศพ ทำให้เชื่อได้ว่าการต่อสู้เรียกร้องในประเด็นทางการเมืองของบุคคลทั้งสองที่ถูกพบศพ เป็นเหตุให้ผู้มีอำนาจหวาดกลัว จึงได้ดำเนินการอุ้มและฆ่าอย่างทารุณโหดร้าย
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจ ร่วมติดตามการดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และความคืบหน้าของคดีดังกล่าวต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมยืนหยัดเคียงข้างทั้งสองครอบครัว รวมถึงทุกครอบครัวของผู้ถูกบังคับให้สูญหายในการเดินหน้าเรีกยร้องความเป็นธรรม และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าครอบครัวทั้งสองจะทราบตัวผู้กระทำความผิดและสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ในที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้กับบุคคลใดได้อีก


![[PR]อัยการสูงสุดสั่งยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรม กรณียุติการสืบสวนเหตุชัชชาญ บุปผาวัลย์ ถูกอุ้มหาย – ฆาตกรรม](https://i0.wp.com/crcfthailand.org/wp-content/uploads/2025/12/24-12-68-1-1.png?resize=218%2C150&ssl=1)
![[PR]ศาลกัมพูชาสั่งยุติการสอบสวนกรณีการบังคับสูญหาย “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2563](https://i0.wp.com/crcfthailand.org/wp-content/uploads/2025/12/23-12-68-1.png?resize=218%2C150&ssl=1)
![[PR]ลงโทษจำคุก 1 ปี ครูฝึก 2 นาย กรณีพลทหารกิตติธร เสียชีวิตหลังเข้ารับการฝึกเมื่อปี 2566](https://i0.wp.com/crcfthailand.org/wp-content/uploads/2025/12/18-12-68-1.png?resize=218%2C150&ssl=1)
