[:th]
เผยแพร่วันที่ 1 ธันวาคม 2559
ใบแจ้งข่าว
คำสั่งชี้ขาดฯ ให้คดีอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรม
ในคดีมารดาผู้ตาย ฟ้อง สตช. กองทัพบก และสำนักนายกฯ
เรียกค่าสินไหมทดแทนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารยิงนายอับดุลอาซิ สาและเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 เวลา 14.30 นาฬิกา ตุลาการศาลปกครองสงขลาได้อ่านคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ในคดีระหว่างนางสาวแยนะ สะอะ ผู้ฟ้องคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่1 กองทัพบก ที่ 2 สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 3 ซึ่งเป็นคดีที่ศาลปกครองสงขลาได้รับฟ้องโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ผู้ฟ้องคดีแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2558 ต่อมาฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดีโต้แย้งเขตอำนาจศาล จนกระทั่งนำไปสู่คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล และได้ชี้ขาดว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
คดีนี้ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและเรียกค่าสินไหมทดแทนจากผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่กระทำละเมิดต่อชีวิตนายอับดุลอาซิ บุตรชายของผู้ฟ้องคดี จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม2556 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารได้ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านกำปงบือราแง อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ได้ควบคุมตัวนายอับดุลอาซิจากบ้านไปยังสวนยางพาราหลังบ้านแล้วเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยิงนายอับดุลลาซิถึงแก่ความตาย
ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองสงขลาผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 2 ได้ยื่นคำร้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองแต่อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม ศาลปกครองสงขลาจึงส่งเรื่องให้ศาลจังหวัดปัตตานีซึ่งเป็นศาลยุติธรรมในพื้นที่เกิดเหตุคดีนี้พิจารณาทำความเห็น ศาลจังหวัดปัตตานีทำความเห็นว่าคดีอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม ส่วนศาลปกครองสงขลายังคงเห็นว่าคดีอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองดังเดิม เมื่อความเห็นของ 2 ศาลแตกต่างกัน ต้องนำเรื่องนี้ขึ้นสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล จึงได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่าคดีอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม ซึ่งศาลจังหวัดปัตตานีคือศาลยุติธรรมที่มีเขตอำนาจเพราะคดีนี้เกิดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ศาลปกครองสงขลาจะได้ทำการโอนคดีและส่งสำนวนไปให้ศาลจังหวัดปัตตานีดำเนินกระบวนพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
นายปรีดา นาคผิว ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 089-6222474[:]