ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1948 มีการประกาศใช้ “ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน” ก็ได้มีการศึกษา และอธิบายความหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนอย่างลึกซึ้งขึ้น และพัฒนามาเป็นกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเข้าใจในพันธกรณีของรัฐในมิติสิทธิมนุษยชน ทั้งการเคารพ (respect) การคุ้มครอง (protect) และการทําให้สิทธิเป็นจริง (fulfill) ซึ่งได้บัญญัติไว้ใน รัฐธรรมนูญ กฎหมาย และแนวนโยบายแห่งรัฐ
สําหรับผู้ที่ปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชน มีความจําเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าใจขอบเขตและเนื้อหาสาระของแต่ละสิทธิ รวมถึงการนําสิทธิเหล่านั้นไปปรับประยุต์ใช้เพื่อการปกป้องคุ้มครองประชาชนในระดับรากหญ้าและระดับประเทศ
หนังสือคู่มือเล่มนี้จึงมีเนื้อหามุ่งเน้นการทําความเข้าใจเรื่องสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองโดยเฉพาะ รายละเอียดปรากฏในแต่ละบทดังต่อไปนี้
บทที่ 1 “ตอบข้อสงสัยเรื่องสิทธิมนุษยชน” ได้กล่าวถึงแนวคิดและหลักการพื้นฐานด้านสิทธิ มนุษยชน และพยายามขยายความเนื้อหา กําหนดนิยามของสิทธิมนุษยชนและหลักการความเป็น สากล จําแนกความแตกต่างระหว่างความจําเป็น สิทธิและความต้องการ สิทธิประเภทต่าง ๆ และ ความไม่อาจแบ่งแยกได้ของสิทธิ แนวคิดเกี่ยวกับพันธกรณี กฎหมายซึ่งเป็นที่มาของสิทธิและ พันธกรณี ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล รัฐและสังคม ความเชื่อมโยงระหว่างหลักนิติธรรม ประชาธิปไตย แนวคิดเรื่องอํานาจ สิทธิมนุษยชนและสันติภาพ นิยามของกรอบด้านสิทธิ วิธีการนํา กฎหมายระหว่างประเทศมาใช้ในประเทศ และหลักการซึ่งเป็นพื้นฐานของแนวทางการทํางานตามหลักสิทธิมนุษยชน
บทที่ 2 “ กลไกการติดตามตรวจสอบสิทธิมนุษยชน ระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับ นานาชาติ” ให้ความสําคัญกับกลไกเพื่อบังคับใช้และติดตามปัญหาสิทธิมนุษยชน รัฐมีความ รับผิดชอบหลักในการประกันว่าบุคคลทุกคนที่อยู่ภายใต้ กฎหมาย สามารถเข้าถึงสิทธิมนุษยชน ของตน แม้ว่าความรับผิดชอบดังกล่าวจะเป็นความรับผิดชอบที่เท่าเทียมกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ แต่ในบทนี้จะเน้นถึงบทบาทของฝ่ายตุลาการและกลไกอิสระอื่น ๆ ที่ จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน อีกทั้งได้อ้างถึงกรณีศึกษาต่างๆ คู่มือฉบับนี้ต้องการเน้นว่าฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารมีพันธกรณีที่ต้องดูแลให้มีการบัญญัติ หรือการบังคับใช้กฎหมายหลักเกณฑ์และระเบียบ โดยให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนั้นยัง อธิบายถึงอํานาจหน้าที่ของกลไกเหล่านี้ในระดับสากลและภูมิภาค รวมถึงการปฏิสัมพันธ์กับรัฐเพื่อ ประกันให้มีการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน อีกทั้งในบทนี้ยังเน้นบทบาทของภาคประชาสังคมในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิผ่านการใช้กลไกติดตามตรวจสอบสิทธิมนุษยชนดังกล่าว
บทที่ 3 “สิทธิและพันธกรณี( Rights and Obligations)” อธิบายขอบเขตและเนื้อหาของ สิทธิต่างๆตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ลักษณะของความสัมพันธ์ระหว่างพันธกรณีของรัฐ รวมถึงแหล่งที่บัญญัติสิทธิต่างๆในกฎหมายระดับชาติ นานาชาติและภูมิภาค ตัวอย่างคําพิพากษาของศาลในระดับชาติและกลไกระดับนานาชาติที่ได้บ่งชี้ ความหมายของสิทธิ นอกจากนี้ยังยกเนื้อหาของรายงาน และแถลงการณ์สิทธิมนุษยชน องค์กรภาค ประชาสังคมในประเทศ ภูมิภาคและระหว่างประเทศที่ช่วยทําให้ความหมายของแต่ละสิทธิที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญชัดเจนมากขึ้น รวมถึงเป็นการแสดงให้รัฐเห็นว่ารัฐควรดําเนินขั้นตอนที่ทําให้ ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิและได้ใช้สิทธิอย่างเต็มที่
บทที่ 4 “การสืบค้นข้อเท็จจริงและการบันทึกข้อมูล ” มีเนื้อหาที่จําแนกหลักการที่เกี่ยวข้อง กับการติดตามตรวจสอบสิทธิมนุษยชน ทั้งการสืบค้นข้อเท็จจริง การรวบรวมข้อมูล และการเขียน รายงานด้านสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังได้แสดงตัวอย่างการใช้กรอบแนวคิดด้านสิทธิมนุษยชนไปใช้ในการประเมินประสิทธิผลของสิทธิมนุษยชนด้วย
บทที่ 5 “แหล่งข้อมูลด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง” เป็นแหล่งข้อมูลจากเวปไซด์ที่เกี่ยวข้องในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติทางด้านสิทธิมนุษยชน
บทที่ 6 “องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ” ในบทนี้ได้รวบรวมองค์กรที่ทํางาน ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และบางส่วนเป็นองค์กรที่ลงทะเบียนกับคณะกรรมการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ
เนื้อหาของหนังสือส่วนใหญ่มาจาก หนังสือ “สิทธิของเรา สิทธิมนุษยชน” ของสถาบันสิทธิ มนุษยชนแห่งเอเชีย (Asian Institute for Human Rights: AIHR) ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2555 ซึ่งใน หนังสือของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชียนั้นมีเนื้อหาครอบคลุมสิทธิที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตามหนังสือคู่มือการทําความเข้าใจเรื่องสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมืองนี้จะมุ่งเน้นการอธิบายสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ลึกซึ้งขึ้น โดย ยกตัวอย่างกรณีศึกษาประกอบเนื้อหาในบางสิทธิที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพิ่มเติมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ กลไกติดตามตรวจสอบสิทธิมนุษยชนที่ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน มุ่งหวังให้ผู้อ่านมีความรู้ พื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง รวมถึงหลักในการตีความหมายของสิทธิประเภท ต่างๆที่รับรองไว้ในกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงาน ด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้นําเนื้อหาสาระดังกล่าวไปใช้ในการทํางานต่อไป




