แถลงการณ์ร่วม องค์กรให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย กรณีทหารชัยภูมิ ป่าแส เสียชีวิต

Share

แถลงการณ์ร่วมองค์กรให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย กรณีเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนยิงนายชัยภูมิ ป่าแส เสียชีวิต เผยแพร่ วันที่ 29 มีนาคม 2560

สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนสงครามยิงนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมทางสังคม และประธานเครือข่ายเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมืองเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา และต่อมามีการกล่าวหาว่านายชัยภูมิ ป่าแส มียาเสพติดไว้ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมและพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่นั้น

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม  ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น  สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้ร่วมกันจัดตั้ง”คณะทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและคดี” แก่ผู้เสียหายในกรณีดังกล่าวขึ้น  ประกอบด้วยทนายความนักกฎหมายและนักสิทธิมนุษยชน  โดยตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการฆ่านอกระบบกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่รัฐ (Extra judicial killings) ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมอย่างร้ายแรง ขัดต่อหลักการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 39 วรรคสอง  ที่บัญญัติว่า “ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด” (พิจารณาประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 4)  ตามหลักการดังกล่าวนอกจากเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา โดยให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาหรือดำเนินคดีอาญาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิดแล้ว  ยังเป็นหลักการสำคัญที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องนำผู้ที่ถูกกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ตามกฎหมาย  และเป็นการป้องกันการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการใดๆ ต่อผู้ต้องสงสัยหรือผู้ถูกกล่าวหาตามอำเภอใจของตน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเป็นระบบแทนที่กระบวนการยุติธรรมหรือที่เรียกว่า”ศาลเตี้ย”

ทั้งนี้ การปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ต้องดำเนินการภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย หลักนิติธรรมและการเคารพสิทธิมนุษยชน   รัฐโดยผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้าหน่วยงาน ต้องดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในสังกัดของตน  และไม่ควรแสดงอาการชื่นชมหรือกล่าวในเชิงให้ท้ายหรือสนับสนุนการใช้วิธีการรุนแรงหรือละเมิดกฎหมาย  และควรมีการสอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ เพื่อรักษามาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความระมัดระวังต่อไป

องค์กรสิทธิมนุษยชนดังมีรายชื่อดังกล่าวข้างต้นและคณะทำงานให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและคดี มีความเห็นว่า

  1. ประจักษ์พยานผู้เห็นเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายชัยภูมิ ป่าแส พึงได้รับการคุ้มครองความปลอดภัย โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และ/หรือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อให้พยานมีความมั่นใจและอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงตามที่ตนรู้เห็นเหตุการณ์ได้โดยปราศจากความหวาดกลัวและการข่มขู่คุกคาม ทั้งให้ย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยทันทีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์และไม่ยุ่งเหยิงข่มขู่พยาน
  2.  การกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารควรได้รับการตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฯลฯ ทั้งนี้ โดยการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจที่มีความเป็นอิสระและมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เหมาะสม
  3. เมื่อมีการผ่าชันสูตรศพและจัดทำรายงานโดยแพทย์นิติเวชแล้ว มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส ควรได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลรายงานการผ่าพิสูจน์ศพของแพทย์โดยเร็ว  ในฐานะที่มารดาและเป็นผู้เสียหายพึงจะได้รับรู้รายละเอียดการตายของบุตรชายตนรวมทั้งความคืบหน้าของคดีและข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆตามสมควร
  4.  ผู้บังคับบัญชา หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะต้องไม่แทรกแซงทั้งโดยเปิดเผยหรือในทางลับ ต่อการสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมสามารถดำเนินการไปได้โดยอิสระเพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

องค์กรสิทธิมนุษยชนและคณะทำงานให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและคดีจะดำเนินการทางกฎหมายต่อกรณีของนายชัยภูมิ       ป่าแส  ตามระบบกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ความจริงปรากฏและเพื่อคุ้มครองหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม นายสุมิตรชัย  หัตถสาร  ทนายความหัวหน้าคณะทำงานฯ  โทร 081-950-7575

นายปรีดา  นาคผิว  ทนายความ  โทร 089-622-2474

Loader Loading…
EAD Logo Taking too long?

Reload Reload document
| Open Open in new tab

Download [131.47 KB]

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading