วันที่ 4 มิถุนายน เวียนกลับมาอีกครั้งเหมือนทุกที เป็นอีกครั้งที่ครอบครัว เพื่อน สังคมและชุมชนต้องย้อนกลับมาระลึกถึงเหตุการณ์การบังคับสูญหายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิตธิ์ หรือ “ต้าร์” นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางสังคมการเมืองผู้ฝังภาพรอยยิ้มพิมใจไว้กับผู้ที่ยังคงคิดถึงความสดใสนั้นจนถึงทุกวันนี้ วันที่คลิปวีดีโอกล้องวงจรปิดเผยแพร่ออกไป และวันที่คนในสังคมต้องสะเทือนใจสะเทือนขวัญกับการกระทำอันอุกอาจอุกฉกรรจ์ในครั้งนี้
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ลี้ภัยหลังจากรัฐประมาณวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และได้ใช้ชีวิตตระเวนไปในประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และลงหลักพำนักที่ประเทศกัมพูชา ในคอนโดระแวกนอกเมืองพนมเปญชื่อ Mekong Garden Condominium วันเฉลิมใช้เวลาช่วงลี้ภัยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลคสช.อย่างต่อเนื่อง ในบรรดาวีดีโอที่เขาชอบทำเป็นวีดีโอที่ใช้ภาษาอีสานในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เขาจะเรียกตัวเองว่า “ต้าร์ เสรีชนคนอีสาน” บอกเล่าเก้าสิบใต้เตียงการเมืองอย่างม่วนชื่นเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน แต่นี่ไม่ใช่ผลงานแรกๆ ของวันเฉลิม ก่อนหน้านี้เขามีชื่อเสียงจากการทำคลิปรณรงค์ให้ความรู้เรื่องสุขอนามัยทางเพศ ซึ่งสร้าง engagement ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ( ใครคิดถึง แวะไปดูกันได้ที่ https://www.youtube.com/@talearm )
ไม่มีใครรู้โดยแท้จริงว่าอะไรคือมูลเหตุของการที่วันเฉลิมถูกบังคับให้สูญหาย แต่ในวาระครบรอบสามปีครั้งนี้ ผู้เขียนอยากมาเล่าให้ฟังว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาความพยายามในการจดจำวันเฉลิมของเราได้เผชิญกับการสูญเสียและสูญหายอะไรไปบ้าง ร่องรอยที่เคยมีและตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหน และสิ่งใหม่ๆ ที่เราได้มามีอะไรบ้าง




5 สิ่งที่สูญหาย นอกเหนือไปจากคน
– ข้าวของทรัพย์สินที่สูญหาย: ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เอกสารประจำตัว ข้าวของใดๆ ที่คนๆ หนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในที่พำนักมากกว่าหนึ่งปี #ปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม
-บันทึกกล้องวงจรปิดที่สูญหาย: แม้ว่าจะมีการเผยแพร่บันทึกภาพบางส่วนไปยังสำนักข่าวหลายสำนัก แต่เวอร์ชั่นออริจินอลไม่เคยได้รับการเปิดเผย #ปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม
– บัญชี Facebook ที่สูญหาย: ก่อนหน้านี้ บัญชี Facebook ของวันเฉลิมในชื่อ Wanchalearm Satsaksit เคยเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำให้กับเรามาตลอด แต่เมื่อปี 2565 บัญชีของวันเฉลิมสูญหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด #ปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม
– ชีวิตปกติที่สูญหาย: ความเสียหายที่เกิดกับคนในครอบครัวนั้นรุนแรงกว่าที่หลายคนคิด ด้วยผลกระทบทางกายภาพและทางสภาพจิตใจซึ่งจะมีผลยาวนานต่อเนื่องไปจนกว่าความจริงจะปรากฎ ครอบครัวของวันเฉลิมไม่สามารถดำเนินกิจการที่มีชื่อของวันเฉลิม เช่น การจัดการที่ดินหรือผลประโยชน์อื่นๆ ที่ครอบครัวจะต้องจัดการได้เลย หากไม่สามารถขึ้นทะเบียนคนหายได้ในวันครบรอบห้าปี และยังมีความเสียหายอีกมากมายที่เรามองไม่เห็น เช่น ผลกระทบทางด้านจิตใจ ซึ่งจะไปมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันต่อไป และสุดท้าย เราจะไม่มีวันรู้ว่าเราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ #ปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม
– เศษเสี้ยวความทรงจำที่สูญหาย: ยิ่งเวลาผ่านไป ความจำของคนเราจะลบเลือน เจือจาง ยิ่งปราศจากวัตถุจับต้องได้ปราศจากบันทึกข้อเท็จจริงหรือเอกสารทางกฎหมาย ไปจนถึงหลักฐานวัตถุที่เป็นรูปธรรม ความทรงจำจะยิ่งเลือนง่ายและจะไม่มีวันเต็มร้อยตลอดกาล ยิ่งวันเวลาผ่านไป เรื่องราวของคนหายจะเลือนราง ความมั่นใจและความเชื่อมั่นในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะค่อยๆ ลดลงเช่นกัน วันใดที่เราลืมจะเกิดเป็นความกลัวขึ้นในใจอย่างมาก ว่าถ้าหากจำเป็นต้องใช้ความทรงจำนั้นเราจะไปขุดหาจากที่ไหน #ปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม
อย่างไรก็ตาม ในเส้นทางการต่อสู้ของครอบครัววันเฉลิมและเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมเพื่อสิทธิมนุษยชนตลอดสามปีที่ผ่านมา เราได้อะไรมาบ้างเป็นคำถามสำคัญที่จะทำให้เรื่องราวของวันเฉลิมยังไปต่อได้ และนี่คือสิ่งที่ผู้เขียนพยามนำขึ้นมาย้ำเตือนกันอีกครั้ง
– พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565: ซึ่งใช้เวลายาวนานและซับซ้อนกว่าจะมีผลบังคับใช้ทั้งฉบับ จึงเป็นที่น่าจับตากันต่อไปว่ากฎหมายใหม่นี้จะเป็นเพียง gadget ใหม่ที่ซื้อมาแต่ไม่ได้ใช้หรือจะเป็นความหวังของการป้องกันเหตุอุ้มหายได้อย่างแท้จริงและมีประสิทธิภาพ
– เสียงของคนรุ่นใหม่ที่จะไม่ยอมให้มีการอุ้มหายอีกต่อไป: การพูดถึงประเด็นเรื่องการทรมานและการอุ้มหายเป็นประเด็นที่หาพื้นที่ในการพูดคุยยากมาโดยตลอด แต่ในวันนี้ เราได้เห็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนมากขึ้น จึงนับเป็นของปลอบใจหนึ่งกล่องที่ทำให้ใจชื้นขึ้นได้ไม่ยาก
แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่จะไม่สามารถทดแทนชีวิตของผู้ที่สูญหายได้เลย แต่ชื่อของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ไทยต่อไป และเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะเก็บรักษาเรื่องราวของวันเฉลิมและคนอื่นๆ ที่สูญหายไป ให้ใบหน้า น้ำเสียง ความคิด กลิ่น และตัวตนของพวกเขาคงอยู่ต่อไป โดยไม่ลืมเรื่องราวของคนที่ยังอยู่ คนในครอบครัวที่ยังต่อสู้อย่างถึงที่สุดเพื่อให้ความยุติธรรมสัมฤทธิ์ผล เราทุกคนมีส่วนร่วมในการจำ การเรียนรู้ การเยียวยา การนำคนผิดมาลงโทษ และการก้าวต่อไปข้างหน้าสู่สังคมที่จะไม่มีใครเจ็บปวดจากเรื่องนี้อีกต่อไป
ข่าวเพิ่มเติม
สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ครอบครัวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และก่อการ บุปผาวัฏฏ์ ครอบครัวของนายชัชชาญ บุปผาวัลย์ พร้อมกับทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชนจะเข้าพบร.ต.อ. โชคชัย สิทธิผลกุล รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (ศป.ทส.) https://www.facebook.com/…/a.41709898…/6208160459231188/
เสวนา “4 ปี การบังคับสูญหายสยาม ธีรวุฒิ: เส้นทางการตามหาความยุติธรรมและแนวทางใหม่ใต้พ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหาย” https://fb.watch/kVGKX8fEBx/