8 พ.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดระนองนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานและกำหนดนัดไต่สวนพยาน ในคดีไต่สวนการตายของนายตาน ซิน อู ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ปากน้ำจังหวัดระนอง เลขคดี ช.1/2566 ในนัดนี้พนักงานอัยการ (ผู้ร้อง) เสนอพยาน 24 ปากขึ้นไต่สวน ทนายของมารดาและบุตรโดยมีภรรยาเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม ของนายตาน ซิน อู (ผู้ร้องซักถาม) ไม่คัดค้านและเสนอนำพยานอีก 3 ปาก
เพื่อให้การไต่สวนการตายนี้สามารถค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นกับนายตาน ซิน อู โดยละเอียด ศาลจังหวัดระนองพิจารณากำหนดนัดไต่สวนพยานผู้ร้องทั้งหมด 2 นัด ในวันที่ 22-23 ส.ค. 2566 พยานจำนวน 24ปากตามที่อัยการเสนอ โดยอนุญาตให้อัยการจัดการบริหารการนำพยานขึ้นไต่สวนได้ตามที่เห็นสมควรภายในสองนัดนี้ ในส่วนพยานที่ผู้ร้องซักถามเสนอเพิ่มเติมนั้นจะกำหนดนัดวันไต่สวนอีกครั้งหนึ่งหลังไต่สวนพยานผู้ร้องเสร็จสิ้น
วันต่อมา 9 พ.ค. 2566 เวลา 09.00 น. มารดาและภรรยานายตาน ซิน อู เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำจังหวัดระนอง เพื่อเข้าให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน หลังมารดาได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อกนักงานสอบสวนไว้ เมื่อวันที่ 25 พ.ย 65 หลังวันเกิดเหตุไม่นาน เนื่องจากครอบครัวมีข้อสงสัยต่อการเสียชีวิตของนายตานซินอูว่าจะถูกทำร้ายร่างกายและซ้อมทรมานในระหว่างการควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นผลให้ถึงแก่ความตายของบุตรชายและสามีตนหรือไม่
คดีนี้ สืบเนื่องจากกรณีนายตาน ซิน อู แรงงานชาวเมียนมา ถูกเจ้าพนักงานตำรวจ สภ.ปากน้ำ จังหวัดระนองจับกุมและถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายตาน ซิน อู ไปที่ สภ.ปากน้ำจังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในวันเดียวกัน หลังจากนั้นนายตาน ซิน อูเสียชีวิตลงในวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ที่โรงพยาบาลจังหวัดระนอง
“ถ้าลูกตนทำผิดจริง ก็แค่ให้ลูกรับโทษจำคุก ไม่เห็นต้องทำให้เขาตายเลย” มารดาของนายตาน ซิน อู บอกเล่าถึงความรู้สึกตนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชาย
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญชวนสื่อและประชาชนที่สนใจร่วมติดตามการไต่สวนพยานในคดีไต่สวนการตายนี้ รวมถึงการดำเนินการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนในส่วนที่ญาติแจ้งความร้องทุกข์ไว้ เพื่อค้นหาความจริงว่าในระหว่างจับกุมตัวนั้นนายตาน ซิน อู ถูกทำร้ายร่างกายและถูกซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐจนถึงแก่ความตายหรือไม่ เพื่อนำตัวเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดมารับโทษตามสมควรต่อไป