[:th]CrCF Logo[:]
พรเพ็ญ-วรชาติ

ศาลแขวงดุสิต นัดฟังคำพิพากษาคดี “วรชาติ-พรเพ็ญ” สองนักปกป้องสิทธิที่ถูกฟ้องปิดปากสี่ข้อหา 7 สิงหาคม 2566

Share

เมื่อวันที่ 26-27 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ศาลแขวงดุสิต กรุงเทพมหานคร ได้สืบพยานจำเลยจำนวน 4 ปาก ในวันที่ 26 เม.ย. 2566 ศาลสืบจำเลยที่ 1 และ 2 และสมาชิกกลุ่มโมกหลวงริมน้ำผู้จัดงาน รวม 3 ปาก ต่อมาวันที่ 27 เม.ย. 2566 ศาลสืบพยานผู้เชี่ยวชาญจำนวน 1 ปาก เสร็จสิ้นภายในครึ่งเช้าของวันดังกล่าว และได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 7 ส.ค. 2566 เวลา 09.00 น.

นายวรชาติ อหันทริก และพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเด็นการทรมาน-อุ้มหาย ตกเป็นจำเลยในคดีอาญา หมายเลขคดี อ.703/2565 ในสี่ข้อหาฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความสะอาด, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.การจราจรทางบกและขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ในงานเสวนารำลึกผู้ถูกบังคับสูญหายหน้าทำเนียบ จัดโดยกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 ซึ่งทั้งสองได้รับเชิญไปเป็นวิทยากร ร่วมเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับ (ร่าง) พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. … ซึ่งในเวลาดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ สภาผู้แทนราษฎร และยังไม่ได้ผ่านเป็นกฎหมายเช่นปัจจุบัน

คดีนี้ใช้เวลาระยะมากว่า 1 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ตลอดมาวรชาติ-พรเพ็ญ ได้ต่อสู้และยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง ทั้งการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงดุสิตขอให้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นจำนวนหลายครั้งตลอดเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าการบังคับใช้กฎหมายในคดีนี้เป็นการใช้กฎหมายเชิงยุทศาสตร์ในการฟ้องปิดปาก (SLAPPs) เพื่อให้ประชาชนเกิดความกลัวและไม่กล้าแสดงความคิดเห็น อีกทั้ง การดำเนินคดีดังกล่าวไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และยืนยันว่าการกระทำของทั้งสองเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางความคิดเห็นที่ได้รับการรับรองจากกฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุด และจากกติการระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งรัฐไทยได้ลงนามเป็นภาคีและมีหน้าที่ที่จะปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศเหล่านี้อีกด้วย

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญชวนให้สื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจทุกคนร่วมปกป้องสิทธิในการรวมกลุ่มและไม่เพิกเฉยต่อการกระทำที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ร่วมกันติดตามนัดฟังคำพิพากษาในคดีนี้ตามวันและเวลาดังกล่าวเพื่อติดตามว่า วรชาติและพรเพ็ญ จะได้รับความเป็นธรรมที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงออกของตนหรือไม่