วันที่ 22-24 มี.ค. 2566 เวลา 08.30 น. ที่ผ่านมา ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี ได้มีการสืบพยานโจทก์เพียงจำนวน 2 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญขึ้นเบิกความในนัดดังกล่าว เหตุเพราะพยานโจทก์อีก 3 ปากซึ่งเป็นทหารที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้เดินทางมาที่ศาลตามนัดและไม่สามารถติดต่อให้มาเบิกความที่ศาลได้ และจำเลยที่ 1-3 ได้แก่หัวหน้าครูฝึก 1 ปาก ผู้ช่วยครูฝึก 1 ปากและครูนายสิบ 1 ปากตามลำดับ ได้นำส่งคำเบิกความก่อนวันนัดสืบพยานดังกล่าว
การสืบพยานในวันที่ 22 มี.ค. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ขณะเกิดเหตุ ผู้ชันสูตรศพของผู้ตายในวันเกิดเหตุขึ้นเบิกความยืนยันในประเด็นผลชันสูตร ต่อมาวันที่ 23 มี.ค. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการป.ป.ท ที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้และได้วินิจฉัยชี้มูลว่าจำเลยมีความผิด ขึ้นเบิกความเพื่อยืนยันถึงรายละเอียดและข้อเท็จจริงของการสอบสวนในชั้นป.ป.ท. รวมถึงการชี้มูลและแจ้งข้อกล่าวหาจำเลย ทั้งนี้ศาลได้แถลงว่าได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดีนี้เป็นระบบไต่สวน ศาลอาจมีการนัดสืบพยานเพิ่มเติมหากยังคงมีข้อสงสัยในประเด็นใดระหว่างการเขียนคำวินิจฉัย โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าต่อไป และได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค. 2566
เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่ทหารผู้สังกัดอยู่ในราชการทหารจึงอยู่ในเขตอำนาจของศาลทหาร อีกทั้งเหตุการณ์เกิดขึ้นในค่ายทหาร จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎหมายพิเศษอย่างกฎอัยการศึก จึงทำให้ระเบียบวิธีพิจารณาของศาลทหารในเวลาไม่ปกตินี้มีความแตกต่างจากศาลทหารทั่วไปอยู่บ้าง กล่าวคือ การพิจารณาคดีนี้จะสิ้นสุดที่ชั้นเดียวและจะไม่สามารถอุทธรณ์หรือฎีกาต่อไปได้ การพิจารณาคดีในครั้งนี้จึงมีความสำคัญยิ่ง
คดีนี้สืบเนื่องจากพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งเป็นพลทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2554 สังกัด ร.151 พัน.3 ถูกกระทำการละเมิดซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่ทหารรวม 9 คน ณ ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาสทหาร ซึ่งเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายจากการบาดเจ็บสาหัส ไตวายเฉียบพลันและ กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงในวันที่ 5 มิ.ย. 2554 คดีนี้เป็นคดีที่ครอบครัวของผู้ตายเรียกร้องความเป็นธรรมมาร่วมตลอด 12 ปี
ทางมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนให้สื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจ ติดตามการฟังคำพิพากษาในคดีพลทหารวิเชียร เผือกสม วันและเวลาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าศาลทหารจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวเผือกสมต่อไป