ไปจัดงาน Unfold the Untold ของ โครงการ ทัน เถียง ทน ที่ปัตตานี มีเรื่องเล่าเยอะมาก โดยเฉพาะวิบากกรรมเหลือเชื่อมากมาย จากไอเดียไม่อยากจัดงานในที่ตั้ง อยากเอางานไปสื่อสารเข้าหาผู้คนตามที่ต่างๆ ตระเวณเซอร์เวย์สถานที่นับสิบๆ ในเมืองปัตตานี หนึ่งในนั้นคือ บ้านโกนมสด (ภาพที่ 1-2) ซึ่งแรกๆ ยังไม่อยู่ในรายชื่อที่หมายตา เพียงแต่เราแวะเวียนไปดูพื้นที่ของร้านมิตรไมตรี จึงได้เห็นโกดังดิบๆ กว้างขวางโอ่โถงที่อยู่ติดกัน เจ้าของร้านปรับพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับนั่งกินนมขนมปัง วัยรุ่นมากันคึกคัก ที่เป็นครอบครัวก็มี มอไซด์จอดกันเป็นแนวยาว เป็นความบังเอิญไปประสบพบรักกันโดยแท้


หาช่องทางติดต่อขอใช้สถานที่จนได้เจอเจ้าของที่ และเจ้าของร้าน ได้รับความร่วมมือสนับสนุนอย่างดี แบกี แห่งร้าน บ้านโกนมสด Baan Ko Nom Sod บอกว่า อยากให้มาจัดที่ร้าน อยากให้ร้านมีกิจกรรมแบบนี้ ทางเราเข้าไปวัดพื้นที่ ออกแบบนิทรรศการภาพถ่าย Patani Untitled ซึ่งถูกเลือกให้จัดแสดงที่นี่ คิดแล้วว่าน่าจะเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง (ภาพ 3-4) ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี นับเป็นพื้นที่แสดงงานแรกที่ลงตัวสุดในตอนนั้น


ขณะที่เรากำลังจะออกเดินทางไปปัตตานีเพื่อเตรียมงานในวันรุ่งขึ้น แบกีส่งภาพมาให้พวกเรา (ภาพ5-6) “ร้านหลังคาถล่มเมื่อวานนี้ !!” พวกเราโทรกลับหาแบกีด้วยความตระหนกตกใจ แบกีเล่าว่าหลังหลังคาถล่มขณะที่กำลังแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากัน แล้วแบก็นึกขึ้นได้ว่า ฉิบห….แย่แล้ว พวกน้องๆ จัดงานไม่ได้ล่ะสิ”


เราลงไปปัตตานีด้วยโจทย์หนักอึ้ง จะเอาที่ไหนจัดนิทรรศการแทนบ้านโกนมสด ในเวลากระชั้นชิดแบบนี้ เพราะนิทรรศการที่เราออกแบบไปแล้วนั้น ทำมาเพื่อเข้ากับสถานที่ในแบบโกดังของร้าน การหาที่กว้างขวางพอไม่ใช่เรื่องง่าย เราตัดสินใจใช้เวลาไปเยี่ยมบ้านโกนมสดอีกครั้ง สภาพภายในเป็นเหมือนดังรูปถ่ายที่เราเห็นทางมือถือ แต่เราเห็นพนักงานร้านกำลังไปตั้งโต๊ะเก้าอี้เพิ่มที่ฟุตปาธตรงข้าม เป็นการสู้กลับหลังถูกหลังคาแห่งชะตากรรมถล่มใส่
ขณะที่เรายังหาสถานที่เป้าหมายใหม่ที่เหมาะสมไม่เจอ พวกเรานั่งล้อมวงประเมินกันว่าจะเลือกทางออกไหน มีคนเสนอว่า ถ้าเราไปจัดที่บ้านโกนมสด แต่จัดข้างนอก ไม่เข้าไปยุ่งตัวอาคาร จัดริมฟุตปาธแบบที่เราเห็นร้านตั้งโต๊ะเพิ่มล่ะ คนที่ประสานงานกับแบกีก็ไม่แน่ใจว่าจะไปสร้างความยุ่งยากใจ ให้แบกีเจ้าของร้านซึ่งก็คงกำลังปวดหัวอยู่หรือเปล่า กับอีกคนก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าเราจะไปติดตั้งนิทรรศการได้อย่างไร
ชั่วเวลาแสนสั้นอันยาวนานที่เราแบกภาระไว้นี้เอง เป็นเวลาแห่งการวัดใจและพิสูจน์ความเชื่อมั่นอะไรหลายอย่าง ในวงเสนอการประเมินอีกด้านว่า จริงๆ ถ้าแบกีมีใจให้เราขนาดนี้ บางทีการยังพยายามหาทางไปจัดที่โกนมสด อาจเป็นการเยียวยาแก มากกว่าไปซ้ำเติมแกก็ได้ ให้เห็นว่าเราร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน ส่วนจะติดตั้งยังไงค่อยๆ คิดกัน และแน่นอน ผลที่ตามมาอีกอย่างถ้าเลือกทางนี้ คืองบต้องบานปลายแน่
ระหว่างรอผลการโทรกลับไปคุยกับแบกีนั้น ราวกับลืมหายใจกันหมดทุกคน คนประสานงานเดินกลับเข้ามาในวง “แบกีอยากให้จัดที่แกถ้าทำได้ แกดีใจมากที่ยังจะจัดที่แกอยู่” เสียงถอนลมหายใจพวยพุ่งเข้ามากลางวง
การประเมินสำคัญ การประเมินไม่ใช่เพื่อสร้างข้อจำกัด หรือความกังวล แต่เพื่อให้โอกาสของความเป็นไปได้ต่างๆ ให้มีทางเลือกหลายๆ ทาง ภายใต้การยืนหยัดและมั่นใจพอว่าเราจะแก้ปัญหาได้
ต่อมาคือได้ที่แล้ว เราจะติดตั้งนิทรรศการยังไง เพราะภาพถ่ายที่เราพริ้นท์มามีขนาดใหญ่ แต่ละภาพเป็นเมตรๆ ตอนมีโกดัง เราก็กะจะแขวนตามขื่อคาของหลังคาที่ถล่มมานั่นแหล่ะ (ตรงนี้เองที่มีเสียงปลอบประโลมว่าดีที่ไม่ถล่มตอนเราจัดงาน) พอจะมาจัดที่ฟุตปาธ เราจะใช้อุปกรณ์อะไรติดตั้ง ทำทันหรือไม่ เรื่องนี้ เราไม่สามารถแก้ไขได้โดยลำพัง เราจึงต้องมีเพื่อน มีตัวช่วย
พวกเราจึงนึกถึงตอนเราไป Patani Artspace เราเห็นทีมงานกำลังอ๊อกเหล็กเป็นรูปโครงบ้าน จึงปรึกษาไปยัง อ.เจ๊ะ Jehabdulloh Jehsorhoh บอกปัญหาที่เกิดขึ้น และโจทย์ที่ต้องจัดการของพวกเราไป แปบเดียว แกก็ร่างแบบโครงเหล็กมา คำนวณจำนวนชิ้นมาเสร็จสรรพ สั่งเหล็ก แล้วมาจัดการอ๊อกเป็นโครงติดตั้งภาพถ่าย เอาตัวอย่างภาพไปทดลองแขวน วิธีล็อคภาพและติดตั้ง (ภาพ 7-8)


ถึงแม้วิธีนี้จะทำให้เราต้องเอาภาพติดกันเป็นสองภาพบนล่าง โดยไม่สามารถเว้นระยะห่างหรือช่องไฟระหว่างรูปได้ แต่ก็นับว่าเป็นทางออกยอดเยี่ยมมากเลยสำหรับนิทรรศการบนฟุตปาธ เราสัมผัสได้ถึงความรู้ ทักษะเชิงปฏิบัติการ และความเป็นมืออาชีพ ต้องขอบคุณ อ.เจ๊ะ และทีมงานปาตานีอาร์ตสเปซจริงๆ
คาถาดินสอสี ทำงานต้องได้เพื่อน การมีส่วนร่วมทำให้เราได้มิตรภาพจากการงานที่ช่วยสนับสนุนกันและกัน การวัดใจ ใช้ใจ ต่อกันและกัน ภายใต้เป้าหมายที่เห็นตรงกัน มีส่วนสำคัญในการประเมินสถานการณ์และทางเลือกในการแก้ปัญหา ที่ต้องเกี่ยวข้อง เกี่ยวพันกับผู้คน
ผลในท้ายสุด เราได้นิทรรศการภาพถ่ายที่เข้าหาผู้คนดังตั้งใจ (ภาพ 9-17) ผู้คนสนใจและมีส่วนร่วมกับภาพถ่ายของเราอย่างมีความหมาย เราสามารถเปิดพื้นที่ให้มีความหมายใหม่ขึ้นมา ภาพคนนั่งลงบนฟุตปาธชมดนตรีฟังการเสวนา บอกเราว่าพื้นที่นี้สามารถจัดกิจกรรมได้อีกหลากหลายในเวลาต่อไป









ตอนจบของเรื่องเล่านี้ น่าจะเป็นบทสรุปของเรื่องราวที่อยากจะเล่าได้ ขณะที่พวกเรากำลังเก็บภาพถ่าย และรื้อถอนนิทรรศการ ประธานชุมชน ซึ่งชื่อ แบกี เหมือนกัน เราไปตั้งนิทรรศการภาพถ่ายอยู่บนฟุตปาธหน้าบ้านแกด้วย ได้มาบอกว่า ชาวบ้านชอบภาพถ่ายที่เราแสดงมาก ขอเก็บไว้ติดที่ชุมชนสักสองสามภาพได้หรือไม่
เรากลับมาจากปัตตานีแล้ว แต่ภาพถ่ายสองภาพจากงานเรา ยังคงแขวนไว้ใจกลางชุมชน หน้าร้านนมที่ชื่อ โกนมสด นั้นเอง
Soe Parita Naifiat Tongmee Ying Saksinee