ออกหมายเรียกญาติ และคนทำงานภาคประชาสังคม กรณีต้านขุดศพ “ยะห์รี ดือเลาะ” | Patani NOTES

Share

สถานีตำรวจภูธรสุไหงปาดีออกหมายเรียกญาติของนายยะห์รี ดือเลาะ 5 คนกับอาร์ฟาน วัฒนะ สมาชิกกลุ่ม The Patani ให้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าเพื่อสอบปากคำ แต่หมายไม่ได้ระบุข้อกล่าวหา ใช้ถ้อยคำว่าทั้งหกคนมีภาพปรากฎในสื่อในกรณีที่เจ้าหน้าที่ต้องการขุดศพยะห์รี

ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ นายยะห์รี ดือเลาะ ชาวสุไหงปาดี เป็นบุคคลที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องการตัว เขาได้หลบหนีไปมาเลเซียและต่อมาหายตัวไปและมีรายงานข่าวว่าถูกอุ้ม หลังจากนั้นมีผู้พบศพชายคนหนึ่งในแม่น้ำโกลก เนื่องจากสภาพศพถูกทำร้ายประกอบกับการอยู่ในน้ำระยะหนึ่งทำให้มีอุปสรรคในการระบุตัวตน ครอบครัวยะห์รีลังเลในช่วงแรกแต่ต่อมายืนยันว่าศพดังกล่าวเป็นของนายยะห์รีโดยดูจากแผลเป็นรอยตำหนิบนร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ไปทำพิธีทางศาสนา แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่อ้างว่าศพดังกล่าวไม่ใช่ของนายยะห์รีและต้องการขุดศพเพื่อนำไปพิสูจน์ พร้อมกันนั้นมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปยังกุโบร์หรือสุสานปาฮงกือปัส สุไหงปาดี เพื่อจะขุดศพทำให้ครอบครัวและประชาชนใกล้เคียงได้เข้าทัดทานเกิดการต่อปากต่อคำกันอย่างรุนแรง จากนั้นมีนักกิจกรรมจำนวนหนึ่งรวมถึงนายอาร์ฟาน วัฒนะได้พยายามเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหน้าที่และญาติรวมทั้งประชาชน ในที่สุดฝ่ายเจ้าหน้าที่ยุติความพยายามขุดศพแต่ได้ต่อว่านักกิจกรรมว่าทำตัวไม่เหมาะสมในฐานะพลเมืองดีต้องสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อ 10 ธค. 2565

สำหรับเอกสารหมายเรียกระบุว่าเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกโดยสภอ.สุไหงปาดีเมื่อ 11 มีค. 2566 จำนวน 6 หมาย เรียกนายอาร์ฟาน นส.นูรไอนิง ดือรอแม นส.ปาตีเมาะ กูโน นส.อารอป๊ะห์ ซำซูเด็ง และนส.นูรวานิง อาแว ให้รายงานตัวกับสถานีตำรวจภูธรสุไหงปาดีเมื่อวันที่ 12 มีค.ที่ผ่านมา ทุกหมายมีข้อความทำนองเดียวกันโดยระบุเหตุของการเรียกว่าเพราะ “ปรากฎภาพของท่านในสื่อโซเชี่ยว กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอขุดศพชายนิรนามที่ทางญาตินำไปฝังและเชื่อว่าศพชายนิรนามนั้นคือศพของนายยาห์รี ดือเลาะ และต่อมาได้มีมวลชนเข้ามาขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขุดศพชายนิรนามดังกล่าว

อาร์ฟานได้กล่าวในระหว่างการร่วมรายงานไลฟ์ของ The Reporters เมื่อคืนวันที่ 13 มีค. ที่ผ่านมาให้รายละเอียดกรณีนี้ว่า เขาและผู้ถูกเรียกอีกห้าคนได้ขอเลื่อนนัดไปก่อน พร้อมกันนั้นเตรียมหารือนักกฎหมายต่อไป

อาร์ฟานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเขายื่นมือเข้าไปเพื่อจะช่วยคลี่คลายบรรยากาศมากกว่าอื่นใด เพราะบรรยากาศกำลังระอุ เชื่อว่าหากไม่เข้าไปไม่แน่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“วันนั้นถ้าผมไม่ไป จะมีการปะทะคารมและเหตุการณ์อาจรุนแรงกว่านั้น ชาวบ้านมีความยากลำบากในการสื่อสารอยู่แล้วและกำลังทุกข์ใจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็บอกแต่ว่าต้องบังคับใช้กฎหมาย”

เขาบอกอีกว่า กรณีการขอรับศพผู้ที่เสียชีวิตจากการถูกวิสามัญฆาตกรรมมีปัญหาเนืองๆเนื่องจากเรื่องของการสื่อสาร พร้อมกับยกตัวอย่างอีกกรณีหนึ่งที่บ้านดาฮง ศรีสาคร นราธิวาสก็มีอาการคล้ายกันเมื่อกลุ่มญาติและชาวบ้านพยายามขอรับศพผู้ถูกวิสามัญฆาตกรรม กลุ่มชาวบ้านพยายามขอให้มีนักกิจกรรมเข้าไปช่วยสื่อสารกับเจ้าหน้าที่

“พวกเขารู้สึกว่าสื่อสารไม่เป็น เขากลัว กลัวว่าจะสื่อสารไม่เข้าใจกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่อ้างตลอดว่าต้องทำตามกระบวนการ แต่ชาวบ้านเขารู้สึกว่าล่าช้า ซับซ้อน”

อาร์ฟานชี้ว่าในกรณีการวิสามัญที่บ้านดาฮง ศรีสาครนี้มีปัญหาหนักเพราะชาวบ้านไม่มีคนนำและไม่รู้ว่าจะเจรจาอย่างไร “ผมกลัวนะ แล้วมันเย็นแล้วด้วย ต้องเข้าใจว่าพอล่าช้าไปเรื่อยๆชาวบ้านเขาก็ไม่ยอมแล้วเพราะตอนนั้นมีปัญหาฝนตกหนักน้ำไหลบ่าข้างล่างเขาและพวกเขาจะต้องเอาศพผ่านไปให้ได้” กรณีนั้นเจ้าหน้าที่เองประสบปัญหาหลังจากที่ลงมาจากภูเขาเพราะพบกับน้ำป่าทะลักจนทำให้รถถูกน้ำพัดพาไป

กรณีปัญหาเรื่องการขอรับศพกลายเป็นเรื่องใหญ่ สำนักสื่อ Wartani ออกแถลงการณ์วันนี้เรียกร้องเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อนจะกำหนดข้อหาที่ร้ายแรงและมีผลต่อการใช้เสรีภาพของสื่อ ทั้งนี้เนื่องจากสถานีตำรวจภูธรธารโตได้ออกหมายให้นักข่าวสองคนในสังกัดไปรายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่าข้อขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่จากกรณีไปรายงานสดการขอรับศพของผู้ถูกวิสามัญฆาตกรรมเมื่อ 21 กพ. ที่ผ่านมา ซึ่งมีเหตุกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่กับญาติผู้เสียชีวิตจนเกือบทำให้เกิดอุบัติเหตุ Wartarni ยืนยันเจตนาในการทำงานสื่อสารเพื่อสร้างสันติภาพและทำงานบนหลักการเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนและรัฐบาล ต้องการเปิดพื้นที่สื่อสารตามแนวทางสันติวิธีไม่มีวัตถุประสงค์ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่

รุสลาน มูซอ บรรณาธิการบริหาร Wartani กล่าวในระหว่างการร่วมรายการเสวนาทาง The Reporters รายการเดียวกันยืนยันว่า ผู้สื่อข่าวไม่ได้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด เพียงแต่ทำรายงานสดซึ่งทำแทบทุกงานและไม่ใช่เพียงการขอรับศพหรืองานศพเท่านั้น รุสลานเห็นว่าบรรยากาศในการขอรับศพของญาติผู้ถูกวิสามัญในระยะหลังๆนี้ระอุอย่างมาก การมีสื่อรายงานควรจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ได้เห็นภาพสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแทนที่จะได้รับช้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่ลงปฎิบัติหน้าที่ฝ่ายเดียว รุสลานเห็นว่าหลายกรณีมีปัญหาการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนอย่างชัดเจน

“กระบวนการพิสูจน์ล่าช้า ขณะที่ชาวบ้านต้องการให้เร็วเพื่อทำพิธีตามความเชื่อ และสื่อสารกันไม่เข้าใจทำให้เกิดความตึงเครียด เราเข้าใจทั้งสองฝ่าย เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่ตัวเอง การไปไลฟ์ (รายงานสด) มันช่วย เจ้าหน้าที่เองก็จะได้เห็นด้วย”

“บางทีมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่เข้าใจกันไม่ได้ ที่จริงมันก็แค่สื่อสารคือคุยกันดีๆเท่านั้่น ถ้าเรา (Wartani) ไม่สื่อสารมันปะทะแน่นอน”

#อาร์ฟานวัฒนะ#ยะห์รีดือเลาะ#วิสามัญฆาตกรรม#Wartani
#สามจังหวัดชายแดนภาคใต้#ThePatani#ซาฮารีเจ๊ะหลง#TheReporters.

อ่านข่าวเดิม เจ้าหน้าที่พยายามขุดศพแต่ชาวบ้านต้าน https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid041CS6XuePqC6gCKR58JAsDDmRSnWCPANfBRzjgzYC9VSyX6C7TxbNxEaQyJRfNnfl&id=100046305528363

รายงานสด live ของ Wartani. https://www.facebook.com/wartanimap/videos/688024509355691

แถลงการณ์ Wartani นักข่าวถูกหมายเรียก https://www.facebook.com/wartanimap/posts/pfbid0jgajwMSMvgdM8fv1HDwSAnmS1WXGVwhXdoywy4P72eLpqaGY9Ee4HUUaDz662MABl

สื่อถูกค้นบ้านเหตุตั้งกลุ่มระดมเงินบริจาคช่วยครอบครัวผู้ถูกวิสามัญ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0MXqNdAjeax4myNFw8PA2BWk3aemC7txSGSr9riE4RCZkeuzme488juKxV9xJMP88l&id=100046305528363

LIve ของ The Reporters อาร์ฟาน วัฒนะ รุสลาน มูซอ ซาฮารี เจ๊ะหลง ร่วมสนทนาปัญหาการออกหมายระลอกล่าสุด https://www.facebook.com/TheReportersTH/videos/1233715457237755

RELATED ARTICLES

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading