[:th]CrCF Logo[:]

DSI แจงบุกค้น-ยึดคอมฯ “ซาฮารี เจะหลง” เหตุถูกร้องเข้าข่ายกระทำผิดพรบ.คอมฯ-ฉ้อโกง | The Reporters

Share

UPDATE: DSI แจงบุกค้น-ยึดคอมฯ “ซาฮารี เจะหลง” เหตุถูกร้องเข้าข่ายกระทำผิด พรบ. คอมฯ-ฉ้อโกง แพร่ข้อมูลชะฮีด-ใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์ ตั้งเป็นคดีพิเศษแล้ว แต่ยังไม่แจ้งข้อหา ภาคประชาชนจ่อใช้ พรบ. ข้อมูลข่าวสาร เปิดขั้นตอนรับเป็นคดีพิเศษ

วันนี้ (15 มี.ค. 66) เวลา 14:00 น. พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ. มูลนิธิผสานวัฒนธรรมพร้อมด้วยกลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ เข้าพบตัวแทนรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ประกอบด้วย พ.ต.ท. กฤช อาจสามารถ รองผู้อำนวยการกอง ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค (รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ) พ.ต.ท. เสกสรร ศรีตุลาการ รองผู้อำนวยการกอง ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค และคณะ เป็นผู้ให้คำชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ DSI สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง นำหมายค้นไปตรวจค้นบ้านของนายซาฮารี เจะหลง บรรณาธิการสำนักข่าว The Motive พื้นที่หมู่ 6 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยได้ยึดคอมพิวเตอร์พกพา (โน้ตบุ๊ก) จำนวน 2 เครื่อง

ทั้งนี้นายซาฮารี เจะหลง ทำหน้าที่เป็นสื่ออิสระรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในพื้นที่ชายแดนใต้ และทำงานระดมทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วย

พ.ต.ท. กฤช อธิบายว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากมีบุคคลมาร้องทุกข์ว่านายซาฮารี กระทำความผิดทางอาญาเกี่ยวกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 เป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคล นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จทางสื่อออนไลน์ทำให้เกิดการเข้าใจผิด และกรณีการรับบริจาคเงินช่วยเหลือเหยื่อเหตุความรุนแรงไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่มีการระดมทุน นำเข้าข้อมูลเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดแล้วได้ทรัพย์สินมา อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน

คณะพนักงานสอบสวน โดย นายชยพล สายทวี เป็นหัวหน้าชุด จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน มีเหตุน่าเชื่อว่ากระทำผิดทางอาญา แต่ยังไม่ระบุข้อกล่าวหา ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานหลายเดือน ได้รับเป็นคดีพิเศษ จึงไปขอหมายค้นจากศาลจังหวัดปัตตานีเพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าว

พ.ต.ท. กฤช ยอมรับว่า ขณะบุกค้นจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายซาฮารี แต่เป็นเพียงการตั้งรูปคดีของพนักงานสอบสวนตามคำร้องทุกข์ของบุคคล จึงต้องรวมรวบพยานหลักฐาน และยืนยันว่าไม่มีการออกหมายจับนายซาฮารีแต่อย่างใด ส่วนข้อกล่าวหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จนั้น เกิดจากกรณีการบิดเบือนหลักคำสอนของศาสนาเรื่อง “ชะฮีด” ทำให้เกิดการเข้าใจผิด และก่อเหตุรุนแรง ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนได้สอบสวนผู้นำศาสนาที่น่าเชื่อถือแล้วได้ข้อเท็จจริงจากบุคคลเหล่านั้นและพร้อมเป็นพยาน ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องมีการพิสูจน์เจตนารมณ์ในการเผยแพร่ การตีความเนื้อหา และผลของการกระทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่พนักงานสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีการเข้าตรวจค้นโดยสนธิกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองนั้น เป็นการบูรณาการความร่วมมือเพราะเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ประกอบกับเจ้าหน้าที่ของ DSI ในพื้นที่มีอัตราเพียง 10 นายรวมธุรการ กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์และภารกิจมาร่วมบูรณาการด้วย ไม่ได้ปฏิบัติเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

ทั้งนี้ DSI ระบุว่า หลังจากนี้จะให้หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนในพื้นที่ได้จัดทำเอกสารชี้แจงรายละเอียดของคดี เพื่อสร้างความเข้าใจแก่กลุ่มผู้ร้องเรียนและสาธารณชน ทั้งข้อสังเกตเรื่องการรับเป็นคดีพิเศษ ขั้นตอนการปฏิบัติ และกระบวนการดำเนินคดีหลังจากนี้ด้วย

ด้าน พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ. มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ แสดงความกังวลอย่างชัดเจนว่าอาจจะเกิดการปฏิบัติแบบนี้กับคนอื่นที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่อีก เพราะนายซาฮารี ถือเป็นนักสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่รู้จัก นับถือของคนในพื้นที่ ระดมทุนเพื่อดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงโดยไม่ถูกระบุว่าเป็นผู้กระทำความผิดหรือไม่ ผ่านเพจ “พ่อบ้านใจกล้า” แล้วกว่า 60 ราย

นอกจากนี้ยังตั้งข้อสงสัยว่า การสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ติดอาวุธเข้าตรวจค้นบ้านในชุมชนขนาดเล็ก แม้ยังไม่มีการกล่าวโทษความผิดในทางอาญา รวมไปถึงการที่ DSI รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เพียงสงสัยว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงเงินประชาชนหรือการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพียงพอต่อการรับเป็นคดีพิเศษและเป็นการกระทำที่ได้สัดส่วนหรือไม่

พรเพ็ญ ระบุว่า วันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนมากนักจาก DSI เพราะได้รับคำชี้แจงเพียงเรื่องรูปคดี ที่ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใดๆ เกี่ยวกับพรบ.คอมฯ และการฉ้อโกง และมีความสนใจใช้ พรบ.ข้อมูลข่าวสารฯ ให้ DSI เปิดเผยขั้นตอนการรับเป็นคดีพิเศษตามสิทธิของผู้เสียหาย ได้รับรู้ถึงขั้นตอนการรับเป็นคดีพิเศษเป็นไปอย่างถูกต้องโปร่งใสหรือไม่

เรื่อง/ภาพ : ทศ ลิ้มสดใส

#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์