ญาติผู้สูญหายกว่า 5 คดี เข้าพบ DSI เพื่อสอบถามความคืบหน้า และขอให้เร่งรัดการดำเนินคดี

Share

วันที่ 1 ก.พ. 2566 เวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา ณ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ตัวแทนญาติผู้เสียหายได้เข้าพบนายจิรัช ทองผิว ตัวแทนกองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และนายเด่น คำแหล้ กรณีถูกบังคับให้สูญหาย และกรณีพลทหารประจักษ์ แก้วคงธรรม นายอรรถสิทธิ์ นุสสะ และนายวีรภาพ วงษ์สมาน กรณีถูกว็อมทรมานให้รับสารภาพ ซึ่งล้วนเป็นคดีที่มูลนิธิฯ ได้ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายอยู่

เนื่องจากขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยมานานแล้ว แต่มูลนิธิ ผู้เสียหายจากการทรมาน และญาติผู้สูญหาย ยังไม่ทราบรายละเอียดและความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษแต่อย่างใด โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ชี้แจ้ง รายคดีโดยสรุป ดังต่อไปนี้

1. คดีพลทหารประจักษ์ แก้วงคงธรรม จากการสอบข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษมีมติว่าคดีนี้ยังไม่เข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษ ทางมูลนิธิฯจึงได้ตั้งข้อสังเกตหลายประการและทางกรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนเพิ่มเติมพิจาณาให้ความเป็นธรรมกับญาติต่อไป

2. คดีพ่อเด่น คำแหล้นั้นทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ยุติการสอบสวนไปแล้วเพราะผลการพิสูจน์กระดูกไม่ได้ว่ามีการทำร้าย แต่ทางหน่วยงานยินดีประสานงานต่างๆ ต่อไปตามความต้องการของญาติ

3. คดีนายอรรถสิทธิ์ นุสสะ และนายวีรภาพ วงษ์สมาน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนด้วยกันรวมเป็นหนึ่งคดี แม้คดีนี้จะยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษแต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

4. คดีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้แจ้งถึงความพยายามในการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนคดีและการประสานระหว่างหน่วยงานของรัฐไทยรวมถึงการประสานไปยังประเทศกัมพูชา แต่มีเงื่อนไขหลายประการที่ดีเอสไอยังไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุผลได้ หากญาติของวันเฉลิมพยานหลักฐานเพิ่มเติม สามารถนำส่งให้ดีเอสไอพิจารณาได้ต่อไป

ดีเอสไอได้แจ้งกับทางมูลนิธิ ผู้เสียหาย หรือญาติผู้สูญหาย หากติดใจประเด็นใด และต้องการเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสอบสวนเพิ่มเติมประการใดสามารถติดต่อ และทำคำร้องเข้ามาได้เสมอ มูลนิธิฯ ได้พยายามย้ำกับดีเอสไอถึงความล่าช้าในการดำเนินคดีย่อมสร้างความบอบช้ำให้แก่ผู้เสียหาย และญาติของผู้เสียหายเป็นอย่างยิ่ง

อีกทั้งความล่าช้าอาจจะทำให้พยานหลักฐานที่จะนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษเสียหายหรือสูญหายไปอีกด้วย มูลนิธิฯ จะยังคงเดินหน้าติดตามและเร่งรัดการดำเนินการคดีเหล่านี้ต่อไปเพื่อให้มั่นใจว่ารัฐจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหายและครอบครัวและนำคนผิดมารับโทษตามสมควรต่อไปให้จงได้ มูลนิธิฯ จึงขอเชิญชวนให้สื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจ ติดตามความคืบหน้าคดีเหล่านี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด

Exit mobile version