ศาลทหารนัดสืบพยานจำเลยยศร้อยโทกับพวก 3 ปากนัดหน้า 22 – 24 มี.ค. 2566 กรณีซ้อมพลทหารวิเชียร เผือกสม เสียชีวิต

Share

ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 นัดสืบพยานจำเลยยศร้อยโทกับพวก 3 ปาก นัดหน้า 22-24 มี.ค. 2566 กรณีเจ้าหน้าที่ทหารซ้อมทรมานพลทหารวิเชียร เผือกสม เสียชีวิตในค่ายทหาร

เมื่อวันที่ 25 – 27 ม.ค. 2566 เวลา 8.30 น. ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ได้สืบพยานโจทก์ 5 ปากเสร็จสิ้น, ยกคำร้องขอพิจารณาลับหลังของจำเลยที่ 3, และนัดสืบพยานโจทก์ 5 ปาก สืบจำเลยยศร้อยโทกับพวก 3 ปากนัดหน้า วันที่ 22-24 มี.ค. 2566 ในคดีดำที่ 41 ก./ 2563 ระหว่างพนักงานอัยการศาลทหารเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทหารยศร้อยโทกับเจ้าหน้าที่ทหารรวม 9 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา

#พรบซ้อมทรมาน#CRCF#StopTorture#torturefreethailand#12ปีวิเชียรเผือกสม#วิเชียรเผือกสม

คดีนี้สืบเนื่องจากพลทหารวิเชียร เผือกสม มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2554 สังกัด ร.151 พัน.3 ถูกเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 9 คนร่วมกันซ้อมทรมานพลทหารวิเชียร จนเป็นเหตุให้พลทหารวิเชียรบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในวันที่ 5 มิ.ย. 2554 ด้วยอาการไตวายเฉียบพลัน และกล้ามเนื้อบาดเจ็บอย่างรุนแรง

โดยก่อนหน้านี้ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ไปแล้วทั้งสิ้น 16 ปาก โดยในนัดที่ผ่านมามีการสืบพยานโจทก์จำนวน 5 ปาก อาทิ ครูฝึกทหารใหม่ และพลทหารที่เป็นประจักษ์พยานในสถานที่เกิดเหตุทั้งสิ้น ในวันสืบพยานดังกล่าวศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอพิจารณาลับหลังของจำเลยที่ 3 ซึ่งก่อนนัดสืบพยานจำเลยที่ 3 ได้ให้การรับสารภาพ และยื่นคำร้องขอพิจารณาลับหลังจำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องมาฟังการสืบพยานได้ ดังนั้นนัดสืบพยานวันที่ 25 – 27 ม.ค. 2566 จำเลยที่ 3 จึงต้องเข้าฟังการสืบพยานในนัดดังกล่าวอีกด้วย

การสืบพยานในครั้งนี้ ศาลได้กำหนดนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 22-24 มี.ค 2566 เวลา 08.30 น. จำนวน 8 ปาก ซึ่งจะมีทหารที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท., แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, และจำเลยที่ 1-3 ซึ่งเป็นหัวหน้าครูฝึก 1 ปาก และครูฝึกทหารใหม่ 2 ปากตามลำดับ โดยศาลได้กำชับให้ทุกฝ่ายตรงต่อเวลา เพื่อจะได้ดำเนินการสืบพยานให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดเวลานัดดังกล่าว

คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ทหาร การดำเนินคดีอาญาเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษจึงต้องขึ้นศาลทหาร ครอบครัวของผู้เสียหายไม่สามารถเข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการทหารเพื่อต่อสู้คดีได้ แต่ปัจจุบันราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศการบังคับใช้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและบังคับให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ในวันที่ 22 กพ 66 นี้ ซึ่งจะทำให้การซ้อมทรมานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารจะไม่สามารถขึ้นศาลทหารได้อีก ดังเช่นกรณีของพลทหารวิเชียร จะต้องขึ้นศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบซึ่งเป็นศาลพลเรือนที่ประชาชนสามารถเข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อเรียกร้องสิทธิให้กับครอบครัวของผู้เสียหายได้

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเชิญชวนให้สื่อมวลชน และประชาชนที่สนใจติดตามการต่อสู้คดีของครอบครัวเผือกสมมากว่า 12 ปี ติดตามนัดสืบพยานในคดีพลทหารวิเชียร เผือกสม ในวันและเวลาดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อเร่งรัดให้คดีมีความคืบหน้าโดยเร็ว ให้ศาลทหารอำนวยความยุติธรรมนำตัวเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่กระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงมาลงโทษ และปรับปรุงแก้ไขการฝึกอบรมทหาร การลงโทษ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อีกต่อไป

RELATED ARTICLES

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading