วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2565) “มึนอ” หรือนางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายพอละจี หรือบิลลี่ ในฐานะมารดาโดยชอบธรรมของบุตรนายพอละจี ได้ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อขอให้รัฐมนตรี และปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวก จำเลยรวม 4 คน ให้ท่านใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งให้นายชัยวัฒน์กับพวกออกจากราชการ เหตุจากการตกเป็นจำเลยในคดีอาญาร้ายแรงต่อศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบกลางเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.166/2565
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 นายพอละจีหรือบิลลี่ รักจงเจริญ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย – ใจแผ่นดิน ได้ถูกจับกุม และนำตัวไปโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี หลังจากนั้นไม่มีผู้ใดทราบชะตากรรรมของเขาอีกเลย
จนกระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 พนักงานอัยการจึงได้ยื่นฟ้องในคดีอาญากับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร นายบุญแทน บุษราคัม นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ เป็นจำเลย ต่อศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำ ยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ ร่วมกันหน่วง เหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย ร่วมกันโดยทุจริตหรืออำพรางคดี กระทำการใดๆ แก่ศพหรือ สภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดี เปลี่ยนแปลงไป เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมานายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนร่วมกับองค์กรเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่ออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมีนายไกวัล ไทยปาล ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง ผู้แทนอธิบดีมอบหมายพร้อมทั้งเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องรับมอบจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรและพวกออกจากราชการ เนื่องจากตกเป็นจำเลยในคดีอาญาร้ายแรงต่อศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง
โดยกรณีที่นายชัยวัฒน์ และพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยในคดีอาญาร้ายแรงนั้น ทางกรมอุทยานฯ ได้ชี้แจงว่าปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และกรมอุทยานฯ ไม่สามารถระบุได้ว่าการสอบสวนดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาเท่าใด ทั้งนี้กรมอุทยานฯ จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ควบคู่กันไปกับกระทรวงทรัพยากรฯ ด้วยเช่นกัน
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอให้สื่อมวลชนและประชาชนร่วมกันติดตามการดำเนินการ และผลของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายชัยวัฒน์ และพวกจากกระทรวงทรัพยากรฯ และกรมอุทยานฯ และจับตาต่อไปว่ากระทรวงทรัพยากรฯ จะมีการดำเนินการให้จำเลยทั้งสี่ออกจากราชการตามสมควรหรือไม่