มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมเยี่ยมเยือนครอบครัวอิหม่ามยะผา รำลึก 14 ปีแห่งความสูญเสีย เนื่องในวันที่ 21 มี.ค. 2564 เป็นวันครบรอบ 14 ปี การจากไปของอิหม่าม ยะผา กาเซ็ง อิหม่ามประจำมัสยิดบ้านกอตอ ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ภายหลังการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 19-20 มี.ค. 2551
ก่อนจะเสียชีวิตในรุ่งเช้าของวันที่สามของการควบคุมตัว ในรถขังผู้ต้องหาที่ค่ายทหาร เนื่องทนความเจ็บปวดจากการซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่ทหารไม่ไหว
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2564 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงเดินทางมาเยี่ยมเยือนครอบครัวกาเซ็ง เพื่อร่วมกิน และพูดคุยเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น แม้ปัจจุบันจะมีการปรับปรุงเรื่องการปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยหรือผู้ถูกจับถูกเชิญตัวไปบ้าง แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นการสร้างรอยบาดแผลแห่งความอยุติธรรมไว้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภายใต้
อนึ่ง คดีความเกี่ยวกับกรณีนี้ มีทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง แม้ที่สุดแล้วคดีความแพ่ง ในคดีหมายเลขดำที่ 1084/2552 ศาลแพ่งจะตัดสินและมีคำสั่งให้กระทรวงกลาโหม จำเลยที่ 1 และกองทัพบก จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติการมีความยินยอมจ่ายเงินเยียวยาความเสียหายให้กับฝ่ายโจทก์ ตามที่ศาลไกล่เกลี่ยและฝ่ายโจทก์ยอมรับ รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,211,000 บาท และได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้ว
แต่ในทางคดีอาญากว่า 14 ปี ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้าเรื่องการนำผู้กระทำการทรมานจนกระทั่งอิหม่ามยะผา เสียชีวิตมาดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งบุคคลที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผู้เสียหายจากการทรมานอีกสองคน คือ ชายวัยอายุ 21 ปี และ 19 ปี บาดเจ็บสาหัส รวมทั้งผู้ถูกจับรวมกันอีกสี่คนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่สามารถทนเห็นสภาพการทุกข์ทรมานของพ่อ และบุคคลที่เคารพในฐานะผู้นำทางศาสนาได้ ทั้งหมดนี้จึงสะท้อนภาพของกระบวนการยุติธรรมไทยที่ยังคงมีปัญหาอยู่จนถึงปัจจุบัน