ศาลสงขลาเลื่อนนัดไต่สวน 6 เดือน แพทย์ทหาร จากค่ายอิงคยุทธบริหาร ผู้ปั้มหัวใจ อับดุลเลาะ อีซอมูซอ

Share

ศาลจังหวัดสงขลาเลื่อนนัดสืบแพทย์จากค่ายอิงคยุทธบริหาร คดีไต่สวนการตายนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เสียชีวิตในระหว่างควบคุมตัว

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ในช่วงเช้าพนักงานอัยการได้นำเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครทหารพรานในค่ายอิงคยุทธรบริหาร จำนวน 3 ปาก เข้าสืบพยานต่อศาล ส่วนในช่วงบ่ายพนักงานอัยการได้นำ แพทย์จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เบิกความต่อศาลถึงการรักษาพยาบาลอาการไม่ได้สติของนาย อับดุลเลาะ อีซอมูซอ เนื่องจากการขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน ส่งผลให้สมองบวม และมีเลือดออกบริเวณกลีบสมอง ส่งผลให้หัวใจขาดการสั่งการทำให้หัวใจหยุดเต้น 

และวันที่ 16 ธันวาคม 2563 พนักงานอัยการ ได้นำแพทย์ประจำโรงพยาบาลปัตตานี เบิกความต่อศาลถึงการรักษาตามอาการของนายอับดุลเลาะฯ เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน โดยมีอาการไม่ได้สติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และได้มีการตรวจเลือดและ CT สแกนบริเวณศรีษะ และช่องท้อง พบว่า นายอับดุลเลาะฯ ขาดอากาศหายใจเวลานาน ทำให้สมองมีเลือดออก และส่งผลให้หัวใจหยุดเต้น

แพทย์จึงเห็นว่า ควรส่งตัวนายอับดุลเลาะฯ ไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เนื่องจากเห็นว่า ที่โรงพยาบาลปัตตานีไม่มีเครื่องมือเพียงพอที่จะรักษาอาการของนายอับดุลเลาะฯ ได้  หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีไต่สวนการตายของนายอับดุลเลาะได้เบิกความต่อศาลถึงการสืบสวนสอบสวนคดี 4 ฝ่าย เมื่อมีการตายโดยผิดธรรมชาติเกิดขึ้น

จากเหตุการณ์นาย อับดุลเลาะ อีซอมูซอ ถูกควบคุมเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44  และส่งตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 03.00 นาฬิกาของวันที่ 21 กรกฎาคม  2562 พบว่าหมดสติอยู่ในห้องควบคุมศูนย์ซักถามของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร

โดยนายอับดุลเลาะฯ ได้รับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จากนั้นได้ส่งไปรักษาตัวต่อ ณ อาคารผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) โรงพยาบาลปัตตานี  ต่อมาวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และต่อมาได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม  2562

คดีชันสูตรพลิกศพนายอับดุลเลาะฯ เป็นคดีหมายเลขดำที่ ช.1/2563 ของศาลจังหวัดสงขลา โดยพนักงานอัยการจังหวัดสงขลา เป็นผู้ร้องขอให้ศาลไต่สวนการตาย และนางสาว ซูไมยะห์ มิงกะ ภรรยาของนายอับดุลเลาะฯ ได้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้ร้องซักถามโดยแต่งตั้งทนายความเพื่อซักถามพยานที่พนักงานอัยการนำมาเบิกความต่อศาล และจะนำพยานที่ฝ่ายญาติผู้ตายอ้างมาเบิกความในคดีนี้ด้วย

การไต่สวนพยานคดีนี้ เริ่มตั้งวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2563 จนกระทั่งวันที่ 15,16 ธันวาคม 2563 ศาลได้ทำการไต่สวนพยานไปแล้วรวมจำนวน 16 คน ได้แก่ เจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 13 คน แพทย์ 2 คน และพนักงานสอบสวน 1 คน

คดีนี้พนักงานอัยการ และทนายฝ่ายครอบครัวของนายอับดุลเลาะฯ ประสงค์จะให้แพทย์ที่ดูแลรักษาผู้ตายในเบื้องต้นก่อนการเข้าสู้ศูนย์ซักถามในค่ายอิงคยุทธบริหาร อีกทั้งยังเป็นแพทย์ที่รักษาผู้ตายเป็นครั้งแรกหลังจากการหมดสติของนายอับดุลเลาะฯ เข้าสืบพยานต่อศาล เนื่องจากเห็นว่าพยานปากนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงให้เลื่อนสืบพยานพนักงานอัยการ ผู้ร้อง เป็นวันที่ 9 มิถุนายน 2564 และนัดสืบพยานฝ่ายผู้ตาย ในวันที่ 10 – 11 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ศาลจังหวัดสงขลา

นางซูไมยะห์ ภรรยาของนายอับดุลเลาะ เห็นว่าแม้ศาลจะเลื่อนคดีไปนานหลายเดือน แต่ก็รอได้ เพราะแพทย์ที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหารเป็นพยานสำคัญที่จะได้ให้รายละเอียดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการตรวจร่างกายนายอับดุลเลาะวันแรกที่ถูกทหารควบคุมตัวไปในค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งแพทย์ระบุว่านายอับดุลเลาะร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว และไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ อีกทั้งยังเป็นแพทย์คนแรกที่ปั๊มหัวใจและรักษานายอับดุลเลาะ ที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหารก่อนส่งตัวนายอับดุลเลาะไปโรงพยาบาลปัตตานี  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

– นาย อับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม โทร 081 8987408
– นาย ปรีดา นาคผิว  ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 089 6222474
– นาย สากีมัน เบญจเดชา ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม โทร 086 0374318

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading