
วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 นายปรีดา นาคผิว ผู้รับมอบอำนาจของผู้ฟ้องคดีที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนใต้ได้เดินทางไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง กรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตัดสัญญาณโทรศัพท์ผู้ฟ้องคดีนี้และประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้ ทำให้ประชาชนตกเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากกการกระทำทางปกครองดังกล่าว และเห็นว่า การตัดสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าวสร้างความเดือนร้อนเสียหาย จึงได้ยื่นฟ้องเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยทุเลาการบังคับคดีหรือคำสั่งทางปกครองก่อนการพิพากษาคดี หากปล่อยให้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น ย่อมทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย และยากแก่การเยียวยาในภายหลัง และขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนประกาศ ระเบียบ ข้อกำหนด หรือคำสั่งใดๆของ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสัญญานโทรศัพท์ของผู้ฟ้องคดีดังกล่าว
สืบเนื่องจากกรณีที่บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออย่างน้อย 4 แห่ง ได้ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และสี่อำเภอในจังหวัดสงขลา เนื่องจากผู้ใช้โทรศัพท์ดังกล่าวไม่ได้ลงทะเบียนซิมการ์ดโดยวิธีการตรวจสอบใบหน้า (Face Recognition) เพื่อยืนยันอัตลักษณ์ของตนภายใน 30 เมษายน 2563 ทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้โทรศัพท์ การใช้บริการอินเตอร์เน็ต ฯลฯ โดยได้รับความเดือนร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เห็นว่า การตัดสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าว น่าจะเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีลักษณะของการเลือกปฎิบัติและละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ จึงได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวจากประชาชนที่ได้รับความเดือนเนร้อนจากการตัดสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อดำเนินการให้ผู้ใช้อำนาจหน้าที่แก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนกลุ่มดังกล่าว ต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นายปรีดา นาคผิว ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 0896222474
[:th]
วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 นายปรีดา นาคผิว ผู้รับมอบอำนาจของผู้ฟ้องคดีที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนใต้ได้เดินทางไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง กรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตัดสัญญาณโทรศัพท์ผู้ฟ้องคดีนี้และประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้ ทำให้ประชาชนตกเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากกการกระทำทางปกครองดังกล่าว และเห็นว่า การตัดสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าวสร้างความเดือนร้อนเสียหาย จึงได้ยื่นฟ้องเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยทุเลาการบังคับคดีหรือคำสั่งทางปกครองก่อนการพิพากษาคดี หากปล่อยให้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น ย่อมทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย และยากแก่การเยียวยาในภายหลัง และขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนประกาศ ระเบียบ ข้อกำหนด หรือคำสั่งใดๆของ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสัญญานโทรศัพท์ของผู้ฟ้องคดีดังกล่าว
สืบเนื่องจากกรณีที่บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออย่างน้อย 4 แห่ง ได้ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และสี่อำเภอในจังหวัดสงขลา เนื่องจากผู้ใช้โทรศัพท์ดังกล่าวไม่ได้ลงทะเบียนซิมการ์ดโดยวิธีการตรวจสอบใบหน้า (Face Recognition) เพื่อยืนยันอัตลักษณ์ของตนภายใน 30 เมษายน 2563 ทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้โทรศัพท์ การใช้บริการอินเตอร์เน็ต ฯลฯ โดยได้รับความเดือนร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เห็นว่า การตัดสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าว น่าจะเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีลักษณะของการเลือกปฎิบัติและละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ จึงได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวจากประชาชนที่ได้รับความเดือนเนร้อนจากการตัดสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อดำเนินการให้ผู้ใช้อำนาจหน้าที่แก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนกลุ่มดังกล่าว ต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นายปรีดา นาคผิว ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 0896222474
[:]