[:th]CrCF Logo[:]
พิณนภา พฤกษาพรรณ

ขอเชิญสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ ภรรยาบิลลี่ เตรียมยื่นคำร้องขอศาลสั่งให้นายพอละจี รักจงเจริญ เป็นบุคคลสาบสูญ

Share

ในเดือนพฤษภาคม 2554 เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ปฏิบัติภารกิจ “ยุทธการตะนาวศรี” เพื่อดำเนินการผลักดันกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณบ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน โดยมีการบังคับให้ปู่คออี้ และชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิมที่เกิด และอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวออกไปจากพื้นที่ โดยเข้ารื้อ ทำลาย เผาบ้านที่ทำด้วยไม้ไผ่กว่า 98 หลัง ทำให้ทรัพย์สินในบ้าน ยุ้งฉาง อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน รวมถึงเมล็ดพันธุ์พืช ได้รับความเสียหาย

เหตุการณ์ครั้งนั้น เป็นเหตุให้ในปี 2555 ชาวบ้านชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่ได้รับความเสียหายจำนวน 6 คน นำโดย “ปู่คออี้” ได้ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อศาลปกครอง ซึ่งกรณีดังกล่าวศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐชดใช้ความเสียหายให้แก่ชาวกะเหรี่ยงบางส่วนแล้ว

ในระหว่างของการฟ้องร้องดำเนินคดี นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ หลานชายของนายคออี้ มีมิ ผู้เป็นแกนนำนักปกป้องสิทธิมนุษยชนของชาวกะเหรี่ยง ถูกบังคับให้หายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 หลังจากถูกจับกุม และถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ได้ยอมรับว่าได้ควบตัวนายพอละจีฯ ไว้จริง แต่อ้างว่าได้ปล่อยตัวไปแล้ว จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีผู้ใดทราบชะตากรรมของนายพอละจีฯ ขณะนี้เป็นระยะเวลา กว่า 5 ปีที่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่ามีชีวิตอยู่หรือไม่ นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ (มึนอ) ภรรยาของนายพอละจีฯ ได้ให้นางสาววราภรณ์ อุทัยรังสี ซึ่งเป็นทนายความยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรีเพื่อขอให้ศาลสั่งให้นายพอละจีฯ เป็นบุคคลสาบสูญตามมาตรา 61  แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ให้สิทธิให้ครอบครัวและญาติ เพื่อให้ครอบครัว ญาติพี่น้องของนายพอละจีฯ สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของนายพอละจีฯ ได้ทั้งหมด

นางสาวพิณภาฯ และทนายความ มีกำหนดจะดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้นายพอละจีฯ เป็นบุคคลสาบสูญ ในวันอังคาร ที่ 27 สิงหาคม 2562 เวลา 09.30 น. ณ ศาลจังหวัดเพชรบุรี จึงขอเชิญสื่อมวลชนและผู้สนใจเข้าร่วมสังเกตุการณ์ ตามวันเวลาข้างต้น