[:th]CrCF Logo[:]

[:th]ศาลจังหวัดมีนบุรี นัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง 28 ม.ค. 2562 คดีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กล่าวหาอดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ และนักวิชาการอิสระด้านกลุ่มชาติพันธุ์ กะเหรี่ยง ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา[:]

Share

[:th]

เผยแพรวันที่ 23 ตุลาคม  2561

ใบแจ้งข่าว

ศาลจังหวัดมีนบุรี นัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง 28 ม.ค. 2562

คดีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กล่าวหาอดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ และนักวิชาการอิสระด้านกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง  ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2561พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสมัคร ดอนนาปี อดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ และนายวุฒิ บุญเลิศ หรืออาจารย์วุฒิ และนักวิชาการอิสระด้านกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง เป็นจำเลย ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ต่อศาลจังหวัดมีนบุรี เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.6246/2561

วันที่ 22 ตุลาคม 2561 ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยและนัดพร้อม นายชัยวัฒน์ ลื้มลิขิตอักษร ผู้เสียหาย คู่กรณีในคดีดังกล่าวได้แต่งตั้งทนายความส่วนตัวและยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ และคำร้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองเป็นเงิน 2 ล้านบาท ศาลอนุญาต

ศาลสอบถามว่าจำเลยทั้งสองจะให้การอย่างไร จำเลยทั้งสองได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดและพร้อมที่จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด เพราะข้อความที่ได้โพสต์และแชร์ข้อความผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย (Facebook) ว่า “ไร่ชัยราชพฤกษ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่สำรวจถือครองตามมติครม.30มิ.ย.41 รวม 100ไร่ การตรวจสอบและร้องเรียนโดยกรมป่าไม้ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเมื่อวันที่24มิถุนายน 2559 อธิบดีกรมป่าไม้(นายชลิศ สุรัสวดี)ได้มีหนังสือรายงานไร่ชัยราชพฤษ์ระบุชัดว่าไร่ชัยราชพฤกษ์มีเนื้อที่ประมาณ100ไร่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือและป่ายางน้ำกลัดใต้ ตำบลสองพี่น้องอำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี อยู่ในพื้นที่การสำรวจถือครองตามมติครม.30มิ.ย.41มีนายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษรเป็นผู้ถือครองเนื้อที่ประมาณ73ไร่(พิกัด47P057298E1418060 N(DATUMWGS84)ซึ่งกรมป่าไม้ต้องทวงคืนพื้นที่แต่อธิบดีกรมป่าไม้กลับเพิกเฉยไม่สั่งการใดๆให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายรวมทั้งยังขัดคำสั่งคสช.64/2557 ข้อ3.ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามผลคดีป่าไม้และดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกทำลาย ให้คืนสภาพป่าไม้ให้สมบูรณ์ดังเดิม โดยประสานงานกับหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคประชาชนและองค์กรชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการอย่างจริงจัง”  ซึ่งจะต้องถูกลงโทษตามข้อ4 “เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดปล่อยปละละเลยหรือเข้าไปมีส่วนร่วมกับการกระทำความผิดตามกรณีดังกล่าวข้างต้นจะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาดโดยทันที”ผมจึงเรียกร้องให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการตามคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557ต่ออธิบดีกรมป่าไม้กับพวกฯโดยด่วนที่สุดต่อไป” นั้น เป็นการกระทำโดยสุจริต เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ในฐานะประชาชนที่ต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายหากพบว่าการครอบครองไร่ชัยราชพฤกษ์ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาตินั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลจะให้คู่ความทั้งสองฝ่ายตรวจพยานหลักฐานพยานหลักฐาน ทนายความจำเลยทั้งสองได้แถลงว่าจำเลยทั้งสองประสงค์จะนำสืบพยานเอกสารจำนวนมากซึ่งอยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอก จึงขอให้ศาลกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปอีกหนึ่งนัด  เพื่อให้คู่ความทั้งสองต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลจึงกำหนดวันนัดสืบพยานหลักฐานในวันที่ 28 มกราคม 2562 เวลา 13.30 นาฬิกา เป็นต้นไป

น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซึ่งมูลนิธิฯได้มอบหมายทนายความช่วยเหลือคดีแก่นายวุฒิ บุญเลิศ ตามคำร้องขอ กล่าวว่า”คดีนี้เป็นคดีที่มีการแจ้งความโดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เจ้าทุกข์ แต่ไม่มีชื่อนายชัยวัฒน์ฯปรากฎในข้อความที่โพสต์เผยแพร่ออกไปแต่อย่างใด  ก่อนหน้านี้นายวุฒิ บุญเลิศ ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน ว่าตนไม่ได้โพสต์ข้อความที่นายชัยวัฒน์ฯอ้างว่าหมิ่นประมาทแต่อย่างใด ไม่มีพยานหลักฐานใดแสดงว่าในช่วงวันเวลาดังกล่าวตนได้มีการเผยแพร่ด้วยการโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทนายชัยวัฒน์ฯ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  ส่วนข้อความที่ตนโพสต์เป็นเนื้อความที่เกิดจากการตรวจสอบของสื่อมวลชนและเป็นที่รับรู้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะมาก่อนหน้านี้แล้วเกี่ยวกับไร่ชัยราชพฤกษ์  จึงน่าสงสัยว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งและการใช้สิทธิทางศาลโดยไม่สุจริตต่อนายวุฒิ บุญเลิศ หรือไม่”

“นายวุฒิ บุญเลิศ เป็นนักวิชาการอิสระด้านกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ทำงานในเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และมีภูมิลำเนาที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ที่ช่วยรณรงค์เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนชองกลุ่มชาติพันธ์ุกะเหรี่ยงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมาโดยตลอด จนปู่โคอี้ มีมี เสียชีวิตไปก่อนที่จะได้รับความเป็นธรรมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้เมื่อปี พ.ศ. 2559 เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ได้รับโล่รางวัลและประกาศจากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ว่าเป็นองค์กรที่ปกป้องคุ้มครองสิทธิชุมชน” นางสาวพรเพ็ญ ฯ กล่าว

สำหรับสื่อมวลชนหรือผู้ที่สนใจคดีดังกล่าวสามารถสามารถติดตามเรื่องราวของคดีนี้ได้ที่ https://crcfthailand.org/?s=วุฒิ

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : นายปรีดา นาคผิว  ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม     โทร 089-6222474

[:]