ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์
● นักโทษเด็ดขาด ร้อยละ 80 ที่เหลืออีกร้อยละ 20 เป็นผู้ต้องขังระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ระหว่างไต่สวน-พิจารณา สอบสวน และอื่นๆ
● พื้นที่เรือนจําควรจะรองรับผู้ต้องขังเพียง 122,047 คน
● เจ้าหน้าที่ 13,000 คน คิดเป็นสัดสวนเจ้าหน้าที่ 1 คนต่อผู้ต้องขัง 27 คน ซึ่งตํ่ากว่า มาตรฐานสหประชาชาติที่กําหนดไว้ที่ระดับ 1 ต่อ 5
● ค่าใช่จ่ายสําหรับนักโทษเฉลี่ย 16,000 บาทต่อคนต่อปี งบประมาณสําหรับกรมราชทัณฑ12,141 ล้านบาท
● กว่าร้อยละ70 เป็นคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
เมื่อเดือนปลายปีพ.ศ. 2558 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและกลุ่มบ้านศิลปินได้ริเริ่มความร่วมมือในการจัดโครงการศิลปะผ่อนคลาย (Art for Relaxation)จัดขึ้นโดยเรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และปีนี้ โดยมีผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมาขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการโครงการ
ปีนี้มูลนิธิผสานวัฒนธรรมร่วมกับศิลปินอิสระนายจิตรกร ได้เริ่มดำเนินการโครงการศิลปะเพื่อการพัฒนาระหว่างเดือนกันยายน-สิ้นเดือนพฤศจิกายนปี 25ุ61 ที่เรือนจำกลางระยอง โดยโครงการนี้มีแนวทางสอดคล้องกับแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2557-2561) แผนสิทธิมนุษยชนด้านความมั่นคงทางสังคม แผนสิทธิมนุษยชนของกลุ่มผู้ต้องหา/ผู้ต้องขัง ที่ระบุว่า มุ่งเน้นงานราชทัณฑ์เพื่อการฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องขัง รวมทั้งแผนปฏิบัติงานราชการกรมราชทัณฑ์ (พ.ศ. 2555-2558) ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาพฤตินิสัยเพื่อคืนคนดีสู่สังคม
ตัวอย่างของบทสนทนาครั้งก่อนทำให้เรามั่นใจว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ประสบการณ์ดีดีจากโครงการอีกฯ
“โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ช่วยบำบัดจิตรใจได้ดีมากครับ ทำให้รู้วิธีการใช้สี รู้วิธีการลากเส้น รู้วิธีการควบคุมจิตรใจ บอกตรง ตรงนะครับผมเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่พอได้มาเรียนการวาดภาพมันทำให้ผม ควบคุมอารมได้ดีมากเลย มีอะไรก็ระบายลง” ผู้เข้าร่วมโครงการฯ
“ผมมีความภูมิใจมากครับ ที่มีโครงการนี้ขึ้นมา ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้ ตอนยังไม่เรียนผมคิดถึงบ้าน คิดถึงลูก เมียมาก แต่พอเรียนแล้ว ผ่อนคลายมากเลยครัว ขอบคุณครับ”
“กระผมมีความคิดว่าอยากให้มีกองงานวิชาชีพเพื่อจะได้เป็นความรู้และต่อเติมความสามารถของผู้ที่มีจัยรักในงานศิลปะ และเป็นอาชีพได้เมื่อพ้นโทษ อยากให้มีโครงการนี้ต่อไปอีกหลายๆ รุ่น นักโทษจะได้ผ่อนคลายและได้ความรู้เป็นประโยด อยากให้มีสถานที่ภายนอกลองรับงานศิลปะของนช.ที่มีความตั้งใจสร้างสันผลงาน จะได้มีกำลังใจและความหวัง”
“สำหรับผมแล้ว มีความภาคภูมิใจและมีความปลื้มปิติที่ได้รับโอกาศจากวิทยากรภายนอกมาให้ความรู้เกี่ยวศิลปะ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานของการวาดรูปภาพต่างๆ โครงการศิลปะผ่อนคลายมีความสำคัญทุกด้านในของของแต่ละบุคคล
- ด้านปฏิสัมพันธ์กับบุคคลภายนอกสร้างปิติที่ดี มุมมองที่ดีของผู้ต้องขังเพื่อให้สังคมภายนอกได้รับรู้ต่อไป
- ด้านความสัมพันธ์กับผู้ต้องขังกับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ
- ด้านความสัมพันธ์ผู้ต้องขังด้วยกัน สามารถปรับทัศนคติต่อกัน อารมณ์ กริยาท่าทาง การควบคุมอารมณ์ระหว่างกัน
- ด้านจิตใจและอารมณ์เป็นหลักสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับตัวเอง
- สร้างรอยยิ้ม ความหวัง ความคิดดีๆ เพื่อจะได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป
ขอบคุณครับ”
“ มีความรู้สึกดีใจมากที่มีโครงการดีๆ จากหน่วยงานข้างนอกมาเผยแพร่ความรู้แก่ผู้ต้องขัง ส่วนที่ได้รับจากโครงการมีประโยชน์มากมายในการดำเนินชีวิตอยู่ภายใน ช่วยให้เป็นคนใจเย็นขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ตั้งแต่เข้าอบรมมา จะทำอะไรก็ต้องคิดก่อนที่จะลงมือทำ กระผมอยากให้มีโครงการสานต่อจากที่เคยเรียนรุ่นแรกเพื่อพัฒนาต่อไป”
“ผมดีใจที่มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ เป็นโครงการที่ดีมาก อยากจะขอขอบคุณวิทยากร คณะอาจารย์ทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาให้ความรู้ให้โอกาสกับพวกผมถึงในที่แบบนี้ โครงการนี้ทำให้ผมรู้สึกใจเย็นลง ไม่อารมณ์ร้อน และมองข้ามปัญหาเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ ..ไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ขอบคุณมากครั้งที่ทำให้ผมไม่เครียด”