[:th]CrCF Logo[:]

สืบพยานจำเลย คดีระเบิดน้ำบูดู เสร็จสิ้น 14 ปาก ทนายยืนแถลงปิดคดีภายใน 15 วัน ศาลนัดฟังคำพิพากษา 25 กย. 2561

Share

วันที่ 3 ส.ค. 2561 ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีหมายเลขดำที่ 561/2560 เป็นวันที่ 4 ที่มีการนัดสืบพยานจำเลยเป็นวันสุดท้าย โดยในวันที่ 1 สค. มีจำเลยเบิกความฐานะพยาน 3 ปาก ในวันที่ 2 สค. จำเลยขึ้นเบิกความในฐานะพยานทั้งหมด 7 ปาก และในวันที่ 3 ส.ค. จำเลยชุดสุดท้ายเบิกความจำนวน 4 ปาก

ประเด็นสำคัญในการเบิกความของจำเลยที่ทั้งสิบสี่คนอยู่ที่การถูกซ้อมทรมานขณะถูกควบคุมตัวในค่ายทหาร ช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2559 เพื่อให้ยอมรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนก่อเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ และ จ.สมุทรปราการ และการบังคับให้ชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพทั้งที่จำเลยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาในชั้นสอบสวน

รูปแบบการทรมานมีทั้งการช็อตไฟฟ้า การใช้รองเท้าบู๊ตทหารทุบที่หลัง การใช้มือทุบตีที่ศีรษะ และลำตัว ใช้แม็คยิงที่ขาขวาเกิดบาดแผล เอาปืนจ่อที่ศีรษะ บังคับให้ถอดเสื้อผ้า  ปิดตาระหว่างการสอบสวน ส่วนจำเลยที่ 6-9 ไม่ได้เบิกความเรื่องถูกซ้อมทรมาน แต่ถูกให้เซ็นรับรองเอกสารซักถามที่ระบุว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทั้งที่จำเลยไม่ได้รู้เห็นหรือให้ถ้อยคำตามที่เจ้าหน้าที่ระบุในเอกสาร รวมทั้งถูกบังคับใช้ชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ

การสืบพยานจำเลยทั้งสิบสี่คนเบิกความเสร็จสิ้น ทนายความศูนย์ทนายความมุสลิมแถลงขอยื่นแถลงการณ์ปิดคดีภายในสิบห้าวัน และศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561  เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายจึงมีญาติ ละเพื่อนๆมาให้กำลังใจจำเลยจำนวนมากกว่า40คนส่วนใหญ่ก็จะเดินทางกลับภูมิลำเนาจังหวัดนราธิวาส  รวมทั้งมีผู้สังเกตการณ์คดีที่สนใจร่วมรับฟังจำนวนหนึ่ง ทั้งอาจารย์ด้านกฎหมาย นักกิจกรรมทางสังคมและนักศึกษา

‘คดีระเบิดน้ำบูดู’ คือชื่อเรียกเหตุการณ์ กวาดจับนักศึกษาและชาวมุสลิมที่พักย่าน ม. รามคำแหง กว่า 40 คน วันที่ 10 ต.ค. 2559 โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอ้างสาเหตุว่ามีการซ่องสุมและจะก่อเหตุระเบิด ‘คาร์บอม’ จนนำมาสู่การขยายผลจับกุมในจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดนราธิวาสด้วย พยานหลักฐานมีเพียงกล่องลังที่ใส่น้ำบูดูเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดได้จากห้องพัก และต่อมาได้เพิ่มหลักฐานคือสาร PETN ในมือขอจำเลยที่ 3