[:th]
เผยแพร่วันที่ 15 ธันวาคม 2560
ใบแจ้งข่าว
ศาลจังหวัดปัตตานีเลื่อนนัดฟังคำพิพากษา เป็นวันที่ 28 ธันวาคม 2560
คดีชาวบ้านผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คนฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก และ สำนักนายกรัฐมนตรี
กรณีทหารพรานยิงรถชาวบ้านที่กำลังจะไปละหมาดศพ เมื่อปี 2555
หรือกรณีปุโละปุโย จ.ปัตตานี
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.30น. ศาลจังหวัดปัตตานีนัดฟังคำพิพากษา ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.519/2558 ซึ่งเป็นคดีที่ชาวบ้าน 5 คน ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก และสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองสงขลาและต่อมามีการโอนคดีมายังศาลจังหวัดปัตตานี เริ่มดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดปัตตานีเมื่อปี 2558 โจทก์ทั้งห้าได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 27.6 ล้านบาท จากกรณีโจทก์ทั้งห้าได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555 ทหารพรานใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่รถยนต์ของชาวบ้านซึ่งมีผู้อยู่ในรถจำนวน 9 คน ขณะกำลังเดินทางออกจากหมู่บ้านกาหยี หมู่ที่ 1 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้เพียง 500 เมตร เพื่อไปละหมาดศพ(การละหมาดขอพรให้ผู้เสียชีวิต) ที่บ้านทุ่งโพธิ์ หมู่ที่ 4 ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย
ในวันนัดฟังคำพิพากษานั้น ศาลได้มีคำสั่งให้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาออกไปอีก เนื่องจากศาลเขียนคำพิพากษายังไม่เสร็จ ประกอบกับต้องส่งร่างคำพิพากษาไปให้สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ตรวจอ่านตามระเบียบ ศาลจึงมีกำหนดเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันที่ 28 ธันวาคม 2560 เวลา 9:00 น.
ก่อนการฟ้องคดีนี้ ญาติผู้เสียชีวิตได้รับเงินเยียวยาจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แล้ว รายละ 7.5 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอแก่ความเสียหายที่ได้รับแล้ว แต่กรณีโจทก์ทั้งห้าซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บนั้นได้รับเงินเยียวยาจำนวน 500,000-765,000 บาท ยังไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่ได้รับ จึงได้ยื่นฟ้อง โดยฟ้องกองทัพบกและสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการในที่เกิดเหตุ เพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนทางละเมิด ให้ได้รับความเป็นธรรมต่อไป
สำหรับโจทก์ทั้งห้า ไม่อยู่ในกรณีที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) มีมติเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560 เพราะเป็นมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวของผู้ตาย 17 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในเหตุความรุนแรงจังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างปี 2548-2557 รายละ 1 ล้านบาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ เพิ่มเติมแล้วแต่กรณี เช่น ทุนการศึกษาแก่สมาชิกของครอบครัวที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน เงินส่งเสริมอาชีพแก่ครอบครัว เป็นต้น โดยคำนวณจ่ายเป็นยอดรวมในคราวเดียว
“คดีนี้เป็นกรณีการละเมิดสิทธิเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง เกิดเหตุปี 2555 เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาไม่มีความคืบหน้า ส่วนคดีแพ่งเรียกร้องค่าชดเชยเยียวยามีความล่าช้าอย่างมาก การเยียวยาความเสียหายต่อผู้เสียหายที่เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เหมาะสม แม้จะมีการเยียวยาเป็นตัวเงิน แต่ไม่่มีการนำคนผิดมาลงโทษ การวิสามัญฆาตกรรมยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องขาดการตรวจสอบที่เป็นธรรม ทำให้ยังคงเป็นเงื่อนไขให้ประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่นต่อนโยบายการสร้างสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้” พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิฯ กล่าว
ขอเชิญสื่อมวลชนและผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้นและติดตามเรื่องราวที่ผ่านมาของคดีได้ที่ : https://crcfthailand.org/?s=ปุโละปุโย หรือ Facebook page: Cross Cultural Foundation(CrCF)
[:]