ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นัดไต่สวนการตายนาย อะเบ แซ่หมู่ และนายชัยภูมิ ป่าแส ซึ่งทั้งสองคนเป็นชาวชาติพันธุ์ลีซู และลาหู่ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิงเสียชีวิต
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 พื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งประจำอยู่ที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนยิงนายอะเบ แซ่หมู่ (ชาติพันธุ์ลีซู) จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยอ้างว่านายอะเบ จะขว้างอาวุธระเบิดที่นายอะเบใส่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหารนายอะเบ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย และกล่าวหาว่านายอะเบมียาเสพติดประเภทเฮโรอีน 2 หลอด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย เหตุเกิด ณ บริเวณถนนระหว่างบ้านรินหลวง-บ้านป่าบงงามลีซอ ซึ่งอยู่เลยด่านตรวจบ้านรินหลวงไม่ไกลนัก
ต่อมา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ทหารอีกชุดหนึ่ง ซึ่งประจำอยู่ที่ด่านบ้านรินหลวงเช่นเดียวกัน ใช้อาวุธปืนยิงนายชัยภูมิ ป่าแส (ชาติพันธุ์ลาหู่) จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ขอเข้าตรวจค้นรถยนต์นายชัยภูมิ และพบยาเสพติดประเภทยาบ้าเป็นจำนวนมากบรรจุซองพลาสติกซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณส่วนกรองอากาศของรถ ต่อมานายชัยภูมิได้ทำการขัดขืนต่อสู้เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งจะใช้อาวุธระเบิดที่นายชัยภูมิมีไว้ในครอบครองขว้างใส่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหารนายชัยภูมิ เหตุเกิด ณ บริเวณจุดตรวจด่านบ้านรินหลวงนั่นเอง นายชัยภูมิ ป่าแส เป็นเยาวชนนักกิจกรรมทางสังคม และอยู่ระหว่างศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นคำร้องชันสูตรพลิกศพ(ไต่สวนการตาย)ทั้งสองกรณีต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องด้วยเหตุแห่งการตายของนายอะเบ และนายชัยภูมิ นั้น เจ้าหน้าที่ทหารอ้างว่าได้กระทำในขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงต้องมีการดำเนินการไต่สวนเพื่อให้ทราบว่า ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน อย่างไร และทราบถึงเหตุและพฤติการณ์แห่งการตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ศาลจังหวัดเชียงได้รับเป็นคดีหมายเลขดำที่ ช.18/2560 และคดีหมายเลขดำที่ ช.19/2560 ตามลำดับ ศาลกำหนดนัดไต่สวนทั้งสองคดีในวันที่ 4 กันยายน 2560
ด้านบิดามารดาของนายอะเบ และนายชัยภูมิ โดยยังคงติดใจในเหตุและพฤติการณ์แห่งการตายของบุตรชาย จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากองค์กรสิทธิมนุษยชนเพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย จึงได้มีการแต่งตั้งทนายความจาก3 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และ ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น เป็นทนายความให้แก่ญาติผู้ตายทั้งสองคดี เพื่อเข้าซักถามพยานของพนักงานอัยการ และนำสืบพยานอื่น ๆ เพื่อให้ปรากฎข้อเท็จจริง ทั้งนี้บิดามารดาของผู้ตายทั้งสองเชื่อว่าบุตรชายของตนถูกฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ทหารกระทำเกินสมควรแก่เหตุ และเป็นที่สงสัยอย่างยิ่งว่าทั้งสองกรณีเกิดเหตุในระยะเวลาห่างกัน 1 เดือน ปรากฏระเบิดชนิดเดียวกันอยู่กับศพผู้ตาย ซึ่งขัดแย้งกับพยานบุคคลและหลักฐานอื่น ๆ ที่รู้เห็นเหตุการณ์ว่าทั้งสองคนก่อนตายไม่มีอาวุธใด ๆ ซึ่งฝ่ายญาติจะได้นำสืบให้ปรากฏความจริงในศาลต่อไป
ขอเชิญผู้ที่สนใจหรือสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดีของศาล ในวันที่ 4 กันยายน 2560 เวลา 09.00น. เป็นต้นไป ณ ศาลจังหวัดเชียงใหม่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นายปรีดา นาคผิว (ทนายความ โทร 098-6222474)
นายสุมิตรชัย หัตถสาร (ทนายความ โทร 081-9507575)[:]