[:th]CrCF Logo[:]

ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา รอผลตรวจพิสูจน์หัวกะโหลก ใช่ของ เด่น คำแหล้ หรือไม่?

Share

นายถนอมศักดิ์ ระวาดชัย ทนายความศูนย์ศึกษา และพัฒนานักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งว่า ศาลได้อ่านคำพิพากษาเลื่อนนัดเป็นวันที่ 27 ก.ค. 2560 ด้วยเหตุผลจากพยานหลักฐานที่พบเจอล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2560 ทั้ง14 รายการ โดยในลำดับที่ 1-13 นางสุภาพ ยืนยันว่าเป็นสัมภาระของสามี เช่น กางเกง รองเท้า ถุงปุ๋ยสะพาย ขวดน้ำ เป็นต้น

แต่หลักฐานลำดับที่ 14 ที่เป็นหัวกะโหลกมนุษย์ ยังรอทางเอกสารจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งยังไม่มีมาแสดงผลการตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอว่า หัวกะโหลกมนุษย์เป็นของนายเด่น คำแหล้ ที่สูญหายไปหรือไม่ จึงเป็นที่มาของการยื่นคำร้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไป ศาลจึงได้มีคำสั่งเลื่อนนัดออกไปเป็นวันที่ 27 ก.ค.2560

และศาลแจ้งว่าจะมีหนังสือเพื่อกำชับไปทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้เร่งติดตามผลการตรวจสอบพิสูจน์ และนำมารายงานต่อศาล ก่อนวันนัด ตามที่ศาลจังหวัดภูเขียวได้มีหมายถึง นายเด่น คำแหล้ จำเลยที่ 1 กับนางสุภาพ คำแหล้ จำเลยที่ 4 นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันนี้ (15 มิ.ย. 2560)

โดยมีสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) จำนวนกว่า 150 เดินทางไปยังศาลจังหวัดภูเขียว เพื่อมาให้กำลังใจ และรอฟังคำพิพากษาของฎีกา คดีข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม ตามความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ และ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ และก่อนศาลจังหวัดภูเขียวนัดอ่านคำพิพากษาศาลกีฎา ปรากฏว่านายเด่น คำแหล้ นักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินทำกิน และเป็นประธานโฉนดชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากที่เข้าไปหาของป่าในบริเวณสวนป่าโคกยาว รอยต่อป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนามและเขตรักษาพันธุ์ป่าภูเขียว เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2560

จนล่าสุดนางสุภาพ (ภรรยานายเด่น) และญาติพี่น้อง เชื่อว่านายเด่น เสียชีวิตแล้ว เพราะหายไป 1 ปีกว่า อีกทั้งหลักฐานหลายอย่างที่ค้นพบในช่วงการค้นหา และนำส่งเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ไปก่อนหน้านั้น ยังไม่สามารถเชื่อมโยงถึงการหายตัวได้

ที่มา สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน