[:th]CrCF Logo[:]

มารดา-น้องสาวนายอนัน เกิดแก้ว ขึ้นเบิกความไต่สวนการตาย นายอนัน เกิดแก้ว ที่เสียชีวิตระหว่างการควบคุมของตำรวจ

Share

ใบแจ้งข่าว มารดา และน้องสาวสองคนของนายอนัน เกิดแก้ว ขึ้นเบิกความคดีไต่สวนการตายนายอนัน เกิดแก้ว เสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศาลนัดอ่านคำสั่งวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมาออกนั่งพิจารณาไต่สวนพยานฝ่ายมารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) ในคดีหมายเลขดำที่ ช.3/2559 คดีไต่สวนการตายนายอนัน เกิดแก้ว ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา

โดยในวันดังกล่าว มารดาและน้องสาวสองคนของนายอนัน เกิดแก้ว ผู้ตาย เป็นพยานขึ้นเบิกความ ต่อศาล ซึ่งทั้งสามได้เบิกความตอบคำถามทนายความมารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) ไปในทำนองเดียวกันได้ความว่า เมื่อประมาณ พ.ศ. 2554 นายอนัน เกิดแก้ว ผู้ตาย เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะจับกุมและควบคุมตัวจากเหตุเกี่ยวกับยาเสพติด ภายหลังจากนายอนันฯ พ้นโทษจากการถูกจับกุมและควบคุมตัวจากเหตุดังกล่าวก็ได้ดำเนินการร้องเรียนต่อสำนักงานและหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อขอความยุติธรรมให้กับตน จากเหตุการณ์ที่ตนถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส  นอกจากนี้มารดานายอนันฯ ได้เบิกความต่อศาลระบุรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในบันทึกการจับกุม เพื่อเป็นหลักฐานที่แสดงว่าการตายของนายอนันฯ ซึ่งสภาพศพมีร่องรอยถูกทำร้ายอย่างหนัก มีเหตุมาจากความโกรธแค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและควบคุมตัวไปสอบสวน เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่จับกุมและควบคุมตัวนายอนันฯ ผู้ตาย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 มีจำนวน 2 นาย เป็นคนเดียวกันกับชุดที่ทำร้ายร่างกายนายอนันฯ เมื่อปี พ.ศ. 2554 และถูกนายอนันฯ ร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอความเป็นธรรมและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว

น้องสาวของนายอนันฯทั้งสองคนเป็นพยานเบิกความในทำนองเดียวกันอีกว่า พวกตนได้ทราบว่านายอนันฯ ผู้ตาย ถูกจับกุมและควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2558  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่งโทรศัพท์มาแจ้งน้องสาวนายอนันฯ และเมื่อได้ทราบข่าว น้องสาวคนหนึ่งของนายอนันฯ ได้ไปเยี่ยมนายอนันฯ ณ สถานที่ควบคุมตัว แต่ได้พูดคุยโดยตรงกับนายอนันฯ เพียงไม่กี่คำ เพราะส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมตัวนายอนันฯอยู่หลายคนนั้นเป็นคนพูดให้ฟังในเรื่องสาเหตุการจับกุมนายอนันฯ   สำหรับสถานที่ควบคุมตัวนายอนันฯ นั้น มีลักษณะเป็นบ้านพักข้าราชการตำรวจ และน้องสาวนายอนันฯพยายามขอประกันตัวนายอนันฯ ออกมา แต่ได้รับการปฏิเสธ และเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าหากนายอนันฯช่วยให้ตำรวจขยายผลไปถึงคนขายยาเสพติดให้นายอนันฯ ก็จะเป็นเหตุให้ลดโทษได้   น้องสาวนายอนันฯ สังเกตเห็นความผิดปกติของพี่ชายว่า นายอนันฯ พูดน้อยมากและเมื่อจะพูดอะไรก็ต้องหันไปดูเจ้าหน้าที่ตำรวจในลักษณะกังวลและหวาดกลัวมาก เห็นนายอนันฯ ได้รับบาดเจ็บปากแตกเล็กน้อย

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรแจ้งน้องสาวนายอนันฯ ว่านายอนันฯ ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา น้องสาวทั้งสองคนของนายอนันฯ จึงไปเยี่ยมพี่ชายในวันดังกล่าวทันที และเห็นว่าตามเนื้อตัวร่างกายของพี่ชายตนนั้นปรากฎรอยฟกช้ำและบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย เปลือกตาของนายอนันฯ บวมช้ำมาก และนัยน์ตาแดงมาก จนทำให้นายอนันฯ ไม่สามารถลืมตาได้ ไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องหายใจ  น้องสาวนายอนันฯ ได้โทรศัพท์แจ้งให้มารดาซึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรีทราบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 มารดาของนายอนันฯ ได้เดินทางจากจังหวัดชลบุรีมายังโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา มาเยี่ยมนายอนันฯ บุตรชายของตน ซึ่งเมื่อตนได้เห็นสภาพของบุตรชายก็คิดว่าบุตรชายของตนน่าจะถูกทำร้ายร่างกาย แพทย์เจ้าของไข้นายอนันฯ ได้พูดคุยกับมารดานายอนันฯ ว่า นายอนันฯ ไม่อาจมีชีวิตรอดต่อไปได้ เนื่องจากศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจนมีเลือดคั่งในสมอง ต่อให้มีการผ่าตัดก็ไม่อาจช่วยให้นายอนันฯ กลับมาได้เหมือนเดิม   ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 เวลาประมาณ 11.00 น. นายอนันฯ ได้เสียชีวิตลง ภายหลังจากที่นายอนันฯ เสียชีวิต พยานทั้งสามเบิกความว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดต่อกับครอบครัว มอบเงินช่วยเหลือค่าปลงศพจำนวน 10,000 บาท และติดต่อนัดหมายให้มารดากับน้องสาวนายอนันฯ ไปพบถึง 3 ครั้ง เพื่อเจรจา โดยจะขอมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับครอบครัวและให้ครอบครัวเซ็นชื่อในหนังสือแสดงเจตนาว่าไม่ติดใจเอาความกับตนและพวกที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายอนันฯ  แต่ครอบครัวนายอนันฯ ไม่ตกลงยินยอมตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเสนอ  และต่อมาบิดามารดานายอนันฯ ได้ยื่นฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539  คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้

เมื่อพยานทั้งสามเบิกความตอบคำถามทนายมารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) จนแล้วเสร็จ เป็นการไต่สวนหรือสืบพยานในคดีครบถ้วนแล้ว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมาจึงได้กำหนดวันนัดอ่านคำสั่งคดีดังกล่าว ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 เวลา 13.30น.

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
นายปรีดา นาคผิว  ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 089-6222474