[:th]CrCF Logo[:]

ศาลปกครองสงขลานัดฟังคำพิพากษา 2 คดี วันที่ 25 มกราคม 2560 คดีทายาทของนายสูเพียงและนายอุสมาน(ผู้ตาย) ฟ้อง สตช. และสำนักนายกฯ กรณีผู้ตายทั้งสองถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2556

Share

img_6324-1

เผยแพร่วันที่ 22 ธันวาคม 2559

                  ใบแจ้งข่าว

ศาลปกครองสงขลานัดฟังคำพิพากษา 2 คดี วันที่ 25 มกราคม 2560

คดีทายาทของนายสูเพียงและนายอุสมาน(ผู้ตาย) ฟ้อง สตช. และสำนักนายกฯ

กรณีผู้ตายทั้งสองถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2556

 

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2559 ศาลปกครองสงขลานั่งพิจารณาคดีครั้งแรก และกำหนดวันฟังคำพิพากษาวันที่ 25 มกราคม2560  ในคดีเลขดำที่ 155/2557 กรณีภรรยากับบุตรผู้เยาว์อีก 3 คน และมารดาของนายสูเพียง สาและ(ผู้ตาย) และในคดีหมายเลขดำที่ 156/2557 กรณีภรรยาและมารดาของนายอุสมาน เด็งสาแม(ผู้ตาย) เป็นโจทก์ โดยทั้งสองคดีดังกล่าวญาติผู้ตายทั้งสองครอบครัวต่างก็ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากหน่วยงานของรัฐ 2 หน่วยงานเช่นเดียวกัน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี อันเนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ปิดล้อม ตรวจค้น และควบคุมตัวชาวบ้าน ณ บ้านสะแนะ หมู่ที่ 1  ต.เรียง  อ.รือเสาะ  จ.นราธิวาส แล้วยิงนายสูเพียง สาและ และนายอุสมาน เด็งสาแม ถึงแก่ความตาย

การนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกดังกล่าว องค์คณะตุลาการ(จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องทำคำพิพากษา) ออกนั่งพิจารณาคดี ศาลเริ่มพิจารณาโดยตุลาการเจ้าของสำนวนสรุปข้อเท็จจริงและประเด็นของคดีให้คู่กรณีที่มาศาลฟัง จากนั้นให้คู่กรณีแถลงต่อศาลด้วยวาจา โดยคดีหมายเลขดำที่ 155/2557 ภรรยาของนายสูเพียงฯ ผู้ฟ้องคดี เป็นผู้แถลง  คดีหมายเลขดำที่ 156/2557 ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดีเป็นผู้แถลง  ส่วนฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดีไม่ประสงค์แถลงใด ๆ ต่อศาล  หลังจากนั้นตุลาการผู้แถลงคดีซึ่งเป็นผู้พิพากษาอิสระ(ไม่ได้อยู่ในองค์คณะฯ) แถลงความเห็นเฉพาะตนว่าจากการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว ตนเห็นควรพิพากษาอย่างไร โดยความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดีดังกล่าวไม่ผูกพันองค์คณะฯ ที่จะทำคำพิพากษาต่อไป  เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการดังกล่าวแล้ว ศาลจึงได้กำหนดวันฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 มกราคม 2560 เวลา 10.00 นาฬิกา

สำหรับคดีหมายเลขดำที่ 155/2557 ภรรยาของนายสูเพียงฯ ได้แถลงต่อศาลเป็นภาษาถิ่นของชาวมุสลิมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ภาษามลายู/ภาษายาวี) โดยศาลจัดให้ล่ามของศาลเป็นผู้แปลเป็นภาษาไทย  ภรรยาของนายสูเพียงได้แถลงต่อศาลความว่า สามีตนเป็นคนดี ขยันขันแข็ง ทำอาชีพรับซื้อต้นยางพาราไปขายส่ง ไม่เคยกระทำความผิดหรือถูกดำเนินคดีใด ๆ ตนเห็นเหตุการณ์ขณะสามีตนและนายอุสมานฯ เดินออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุโดยสมัครใจเพื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวโดยมัดมือไหล่หลังออกไปแล้ว ทำไมต้องนำตัวกลับเข้าไปอีกแล้วยิงทั้งสองคนจนตาย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไร หากเห็นว่าเขากระทำผิดก็ควรนำตัวไปดำเนินคดี ไม่ใช่ยิงให้ตาย ตนกับสามีมีลูกด้วยกัน 3 คน ขณะเกิดเหตุตนตั้งครรภ์ลูกคนสุดท้องได้เพียง 2 เดือน ตนและลูก ๆ ได้รับความทุกข์ยากลำบากมากหลังจากสามีเสียชีวิต ตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่กระทำไม่ถูกต้อง จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรม

ส่วนคดีหมายเลขดำที่ 156/2557 ภรรยาและมารดาของนายอุสมาน ประสงค์ให้ทนายความผู้รับมอบอำนาจเป็นผู้แถลงแทน ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดีจึงแถลงสรุปรวมทั้งสองคดีในข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย เป็นเหตุผลประกอบการขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้เป็นไปตามคำฟ้องของทั้งสองคดี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  

นายปรีดา นาคผิว         ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 098-6222474

TAG

RELATED ARTICLES