ขอให้เร่งสร้างกระบวนการยุติธรรม เพื่อลดการแก้แค้นเอาคืนในพื้นที่จชต

Share

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 เกิดเหตุการณ์ลอบยิงทำให้มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตพร้อมเด็กในท้องหนึ่งรายและบาดเจ็บหนึ่งราย ได้แก่นางสาวรัตติกาล จ่าวัง ตั้งครรภ์ 8 เดือนผู้เสียชีวิตพร้อมเด็ก และนางสายใจ ทองดี เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 19.20 น. เหตุเกิดบริเวณถนนสาย 42 บ.ปาลัส ต.ควน อ. ปานาเระ จ.ปัตตานี แม้ว่าผู้บาดเจ็บจะได้รับการส่งตัวไปโรงพยาบาลแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของเด็กในท้องได้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม กลุ่มด้วยใจ ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีรวมทั้งต่อผู้บริสุทธิ์ว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักการทางศีลธรรม หลักสิทธิมนุษยชนและละเมิดกฎหมายท้งในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่มีความชอบธรรมทางการเมืองใดใด อีกทั้งยังเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หากการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ  

จากเหตุการณ์ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี รวมทั้งผู้บริสุทธิ์ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการปะทะและจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อความไม่สงบในช่วงเดือนที่ผ่านมาส่งผลให้ความรุนแรงที่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวสูงขึ้น สร้างให้เกิดความแตกแยกและเกลียดชังระหว่างกลุ่มประชากรต่างๆ 

จากการปะทะและติดตามจับกุมบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในความผิดทางอาญาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดในคดีความมั่นคงในพื้นที่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะกรณีที่มีการปะทะรวมทั้งการใช้อาวุธในการติดตามจับกุมจนก่อให้เกิดการวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อำเภอรามันเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 กรณีนายมะซูปิยัน ยะกูมอ และนายบูคอรี หะมะ ถูกยิงเสียชีวิตในสวนยางขณะขับขี่รถมอเตอร์ไซค์โดยเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าเป็นการติดตามจับกุมตามแผนปฏิบัติการโดยได้มีการพูดคุยกับญาติให้มามอบตัวก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่เป็นผลจนกระทั่งเกิดเหตุยิงเสียชีวิต หรือกรณีนายซอบรี บือแน ในพื้นที่ต. กอตอตือร๊ะ อ.รามัน จ. ยะลา เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2559 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สนธิกำลังติดตามจับกุมบุคคลต้องสงสัยและมีวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต ทั้งสองกรณีนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติการปราบปรามการก่อความไม่สงบที่รุนแรงที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และอาจส่งผลให้เกิดการโต้ตอบล้างแค้นเอาคืนจนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเป้าหมายของวงจรความรุนแรง

ดังนี้มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และ กลุ่มด้วยใจ ขอเสนอให้รัฐบาลต้องเร่งสร้างให้กระบวนการยุติธรรมเข็มแข็ง เป็นที่เชื่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 เกิดเหตุการณ์ลอบยิงทำให้มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตพร้อมเด็กในท้องหนึ่งรายและบาดเจ็บหนึ่งราย ได้แก่นางสาวรัตติกาล จ่าวัง ตั้งครรภ์ 8 เดือนผู้เสียชีวิตพร้อมเด็ก และนางสายใจ ทองดี เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 19.20 น. เหตุเกิดบริเวณถนนสาย 42 บ.ปาลัส ต.ควน อ. ปานาเระ จ.ปัตตานี แม้ว่าผู้บาดเจ็บจะได้รับการส่งตัวไปโรงพยาบาลแต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของเด็กในท้องได้ 

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม กลุ่มด้วยใจ ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีรวมทั้งต่อผู้บริสุทธิ์ว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักการทางศีลธรรม หลักสิทธิมนุษยชนและละเมิดกฎหมายท้งในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่มีความชอบธรรมทางการเมืองใดใด อีกทั้งยังเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หากการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ  

จากเหตุการณ์ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี รวมทั้งผู้บริสุทธิ์ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการปะทะและจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อความไม่สงบในช่วงเดือนที่ผ่านมาส่งผลให้ความรุนแรงที่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวสูงขึ้น สร้างให้เกิดความแตกแยกและเกลียดชังระหว่างกลุ่มประชากรต่างๆ 

จากการปะทะและติดตามจับกุมบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในความผิดทางอาญาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดในคดีความมั่นคงในพื้นที่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะกรณีที่มีการปะทะรวมทั้งการใช้อาวุธในการติดตามจับกุมจนก่อให้เกิดการวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อำเภอรามันเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 กรณีนายมะซูปิยัน ยะกูมอ และนายบูคอรี หะมะ ถูกยิงเสียชีวิตในสวนยางขณะขับขี่รถมอเตอร์ไซค์โดยเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าเป็นการติดตามจับกุมตามแผนปฏิบัติการโดยได้มีการพูดคุยกับญาติให้มามอบตัวก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่เป็นผลจนกระทั่งเกิดเหตุยิงเสียชีวิต หรือกรณีนายซอบรี บือแน ในพื้นที่ต. กอตอตือร๊ะ อ.รามัน จ. ยะลา เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2559 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สนธิกำลังติดตามจับกุมบุคคลต้องสงสัยและมีวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต ทั้งสองกรณีนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติการปราบปรามการก่อความไม่สงบที่รุนแรงที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นใน 

 กระบวนการยุติธรรม และอาจส่งผลให้เกิดการโต้ตอบล้างแค้นเอาคืนจนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเป้าหมายของวงจรความรุนแรง

ดังนี้มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และ กลุ่มด้วยใจ ขอเสนอให้รัฐบาลต้องเรงสร้างให้กระบวนการยุติธรรมเข็มแข็ง เป็นที่เชื่อถือของประชาชนทุกฝ่าย โดยต้องได้รับการส่งเสริมและมีประสิทธิภาพและต้องสามารถนำผู้กระทำความผิดทุกฝ่ายมาดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อให้ได้รับการลงโทษทางกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการลดการใช้ความรุนแรง รวมทั้งต้องเยียวยาต่อผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ทั้งครอบครัว ทุกกรณีอย่างเสมอหน้ากันโดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้จะเป็นการลดและป้องกันการแก้แค้นเอาคืนต่อกันและกันอถือของประชาชนทุกฝ่าย โดยต้องได้รับการส่งเสริมและมีประสิทธิภาพและต้องสามารถนำผู้กระทำความผิดทุกฝ่ายมาดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อให้ได้รับการลงโทษทางกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการลดการใช้ความรุนแรง รวมทั้งต้องเยียวยาต่อผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ทั้งครอบครัว ทุกกรณีอย่างเสมอหน้ากันโดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้จะเป็นการลดและป้องกันการแก้แค้นเอาคืนต่อกันและกัน

TAG

RELATED ARTICLES

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading

Discover more from มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading