[:th]CrCF Logo[:]
อนัน เกิดแก้ว (Anan Kerdkeow)

บิดา-มารดานายอนัน เกิดแก้ว ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตระหว่างการสอบสวน ยื่นฟ้อง สตช. เรียกค่าเสียหาย

Share

ใบแจ้งข่าว บิดามารดานายอนัน เกิดแก้ว ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตระหว่างการสอบสวน ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียกค่าเสียหาย

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 บิดามารดาของนายอนัน เกิดแก้ว ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวและสอบสวน จะยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในกรณีการบาดเจ็บและเสียชีวิตของนายอนัน เกิดแก้ว หลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 โดยถูกกล่าวหาว่าเสพยาเสพติด(ยาบ้า) และมียาบ้าไว้ในครอบครองจำนวน 8 เม็ด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดนครราชสีมา ได้ควบคุมตัวไปที่เซฟเฮาส์ซึ่งเป็นบ้านพักของข้าราชการตำรวจในศูนย์ปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผล จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 จึงถูกส่งตัวไปควบคุมที่ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ต่อมานายอนันฯ ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลและเสียชีวิตในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558

ญาตินายอนันฯ ได้รับโทรศัพท์แจ้งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 ว่านายอนันฯ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา โดยไม่แจ้งสาเหตุ เมื่อญาติเดินทางไปก็พบว่าสภาพร่างกายนายอนันฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถสื่อสารได้  ญาติเชื่อว่านายอนันฯ ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่  ต่อมานายอนันได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558

จากรายการการตรวจศพนายอนันฯ ของโรงพยาบาลมหาราช ระบุสาเหตุการตายว่า “สมองบาดเจ็บรุนแรง อันเนื่องจากการเหวี่ยงกระแทกของศีรษะ” ผลการชันสูตรศพโดยละเอียดพบว่า เกิดบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย อาทิ บริเวณศีรษะและใบหน้า พบเลือดออกในเยื่อบุตาขาวของตาซ้าย  รอยช้ำที่ริมฝีปากบน และบาดแผบฉีกขาดภายในเยื่อภายในช่องปาก  รอยช้ำแดงลักษณะเป็นแนวยาวที่บริเวณแก้มและโหนกแก้มซ้าย  รอยช้ำที่บริเวณหลังใบหูซ้าย  รอยช้ำแดงที่บริเวณหน้าผากด้านขวาและซ้าย  รอยช้ำที่บริเวณคาง   บริเวณอกและลำตัว พบรอยถลอกครูดที่บริเวณหลังไหล่ซ้าย รอยช้ำที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย  และบริเวณใต้ราวนม  บริเวณแขนและมือ พบบาดแผลถลอกครูดที่บริเวณศอกทั้งสองข้าง บาดแผลถลอกครูดและแผลฟกช้ำที่ข้อมือทั้งสองข้าง บาดแผลถลอกครูดและขีดข่วนที่หลังมือขวา บริเวณขาและเท้า  พบบาดแผลถลอกครูดและถลอกขีดข่วนที่ต้นขา เข่า หน้าแข้งซ้ายและหลังเท้าทั้งสองข้าง  ซึ่งรายละเอียดการตรวจภายในพบรอยช้ำที่บริเวณหนังศีรษะ บริเวณหน้าผากฝั่งซ้ายและฝั่งขวาร่วมกับรอยช้ำที่บริเวณกล้ามเนื้อบริเวณขมับทั้งสองด้าน พบก้อนเลือดขนาดใหญ่ใต้ต่อมเยื่อหนังหุ้มสมองด้านซ้าย เนื้อสมองบวมทั่วไป ร่วมกับภาวะแทรกซ้อนเลือดออกในก้านสมองอันเป็นผลต่อเนื่องจากสมองบวม  พบรอยช้ำที่ผนังหน้าอกบริเวณชายโครงด้านซ้าย ปอดทั้งสองข้างคลั่งเลือด  ญาติจึงเชื่อว่าบาดแผลไม่ได้เกิดจากการที่นายอนันฯ วิ่งหกล้มระหว่างหลบหนีแต่ถูกซ้อมทรมานระหว่างถูกควบคุมตัวไปสอบสวน

นางวาสนา เกิดแก้ว มารดาของนายอนันฯผู้ตาย ได้ร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายต่อมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อป้องกันและต่อต้านการทรมานและช่วยเหลือประชาชนให้สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม มูลนิธิฯจึงได้ให้ความช่วยเหลือ โดยแต่งตั้งทนายความดำเนินคดีชันสูตรพลิกศพ(ไต่สวนการตาย) ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนพยาน

ส่วนการดำเนินการฟ้องคดีเแพ่งในครั้งนี้บิดามารดาของนายอนันฯ เป็นโจทก์ ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นจำเลย ในฐานหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าพนักงานตำรวจที่กระทำละเมิดต่อร่างกายและชีวิตนายอนันฯในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้โจทก์เห็นว่าเจ้าพนักงานตำรวจผู้เกี่ยวข้องดังกล่าวได้จงใจทำร้ายร่างกายนายอนันฯจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังละเลยไม่นำตัวนายอนันฯเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

การจับกุมหรือควบคุมตัวผู้ต้องหาต้องดำเนินการโดยสมเหตุสมผล และต้องปฏิบัติอย่างเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การทำร้ายร่างกายเพื่อให้รับสารภาพหรือกระทำทรมานเป็นความผิดตามกฎหมายและอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานฯ และหากผู้ต้องหามีอาการเจ็บป่วยในระหว่างการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่จะต้องจัดให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การตายของนายอนันฯเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้ครอบครัวของผู้ตายได้รับความเสียหาย

บิดามารดาของนายอนันฯ จึงกำหนดเข้ายื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและค่าชดเชยตามกฎหมายต่อไป

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

  • นายปรีดา นาคผิว 089-6222474 ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม
  • นางณัฐาศิริ เบิร์กแมน 089-1208077 ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม