DSW ภาพ: การประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงวันที่16 มีนาคม 2555 ที่โรงแรมบีพี แกรนด์สวีท หาดใหญ่
เผยแพร่วันที่ 9 สิงหาคม 2559
ใบแจ้งข่าว
ศาลจังหวัดปัตตานีได้สืบพยานโจทก์ คดีแพ่ง กรณีปุโละปุโย
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกอรมน.ระบุ ผู้ตายและผู้บาดเจ็บบริสุทธ์
ปืนที่พบไม่ใช่ของประชาชน
ในวันที่ 9 สิงหาคม 2559 ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ศาลจังหวัดปัตตานีได้สืบพยานโจทก์อีกหนึ่งปาก คดีแพ่งหมายเลขดำที่ 519 / 2558 ระหว่าง นายยา ดือราแม กับพวกรวม 5 คน โจทก์ กองทัพบก ที่ 1 และสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 2 จำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 กรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารพรานยิงรถชาวบ้านที่ ต.ปุโละปุโย อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อ 29 มกราคม 2555 จนมีชาวบ้านเสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บ 5 คน โดยผู้บาดเจ็บทั้งห้าเป็นโจทก์ในคดีนี้
โดยในวันนี้ศาลได้สืบพยานโจทก์เป็นปากที่ 10 คือ นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ประธานมูลนิศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดปัตตานี หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ทหารพรานยิงชาวบ้านดังกล่าวข้างต้น ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ 10 /2555 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 โดยคณะกรรมการฯ มีจำนวน 15 คน ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน และผู้แทนภาคประชาชน รวมทั้งผู้แทนชาวบ้านจากพื้นที่ที่มีผู้ได้รับผลกระทบ
นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ เบิกความต่อศาล ความว่า ตามความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสรุปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2555 เวลา 20.30 นาฬิกา ณ บริเวณทางแยกขึ้นทางหลวงสาย 418 ในพื้นที่บ้านกาหยี หมู่ที่ 1 ตำบลปุโละปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 4คน ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 คน รถยนต์กระบะได้รับความเสียหาย 1 คัน เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยน่าจะเกิดจากการสำคัญผิดสืบเนื่องมาจากปัจจัยสภาพแวดล้อมซึ่งเป็นที่มืดและเป็นช่วงเวลาที่ถือว่าเป็นเวลาดึกสำหรับบริเวณและพื้นที่เกิดเหตุ ประกอบกับระยะเวลาเกี่ยวพันกับกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามลอบยิงฐานปฏิบัติการของทหารพราน จึงมีการออกปฏิบัติการลาดตระเวนและตั้งจุดสกัดกั้นคนร้าย ซึ่งเคยประสบเหตุในทำนองเดียวกันมาหลายครั้ง เจ้าหน้าที่บางคนอาจมีความรู้สึกอคติและหวาดระแวงต่อเหตุการณ์ความไม่สงบ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าประชาชนผู้ถูกกระทำเป็นผู้บริสุทธิ์ ประกอบกับข้อเท็จจริงจากรายงานการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์และข้อสงสัยหลายประการเกี่ยวกับการพบอาวุธปืนในรถยนต์คันที่เกิดเหตุ คณะกรรมการจึงให้ความเห็นว่า น่าเชื่อว่าอาวุธปืนที่พบในรถไม่ใช่ของประชาชนที่มากับรถคันเกิดเหตุดังกล่าว
เมื่อเสร็จสิ้นการสืบพยานในวันนี้ ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ครั้งต่อไปในวันที่ 10 ตุลาคม 2559 เวลา 09.00-16.00 นาฬิกา
ขอเชิญสื่อมวลชนและผู้สนใจเข้ารับฟังการพิจารณาคดีของศาลตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น และติดตามความคืบหน้าคดีได้ที่ Facebook page: Cross Cultural Foundation (CrCF)
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
นายสากีมัน เบญจเดชา ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี โทร.086-0374318
นายปรีดา นาคผิว ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 089-6222474