เป็นเสียงพูดครั้งสุดท้ายในตอนสายๆ ช่วงเช้า ของพ่อเด่น ก่อนเข้าป่า พร้อมด้วย อีหมี และไอ้เติ่ง สุนัขคู่ใจผู้เมีย มากกว่าครึ่งเดือนแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ที่ไม่มีร่องรอยของพ่อเด่น วันนี้แม่สุภาพ คำแหล้ ภรรยาของพ่อเด่น คำแหล้ แกนนำชุมชนโคกยาว ยังคงเฝ้ารอพ่อเด่นอยู่ที่บ้าน
“แม่นอนร้องไห้อยู่คนเดียว เสียงของพ่อเด่นยังแว่วอยู่ในหู ให้แม่อยู่บ้านน่ะ ไม่ต้องเข้าไปในป่า ซักผ้า เตรียมพื้นทีปลูกไม้รวก เวลาฝนตกลงมา เดี๋ยวพ่อเด่น จะเอารถไถมาขุดดิน เราจะได้ปลูกไม้รวกกัน เราคุยกันเท่านั้น วันที่ 16 “
แม่ได้ ไม่ได้เฉลียวใจ หรือเอะใจอะไรเลย วันนั้น ที่พ่อเด่นเข้าป่า เพราะเป็นเหตุการณ์ปกติชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
“แม่รอ พ่อเด่น พอเลยเวลา 4 โมงเย็น เพราะโดยปกติ ไม่เกินบ่าย 3 โมงเย็น พ่อเด่นก็จะออกจากป่า เอาของไปขายตลาด ขายหน่อไม้ ขายผัก แล้วแต่พ่อเด่นได้อะไรมา ทุกวัน พ่อเด่นจะพาแม่ไปตลาด เพราะแม่ขับมอเตอร์ไซต์ไม่เป็น ก็นั่งซ้อนพ่อเด่นไป พร้อมของที่เอาไปขายที่ตลาดทุ่งลุยลาย”
แต่รอแล้วรอเล่า พ่อเด่นก็ไม่ออกมาจากป่าเสียที แม่เอะใจ แต่ก็ยังอดทนรอ 5 โมง ก็แล้ว 6 โมงเย็นก็แล้ว ก็ยังไม่เห็นพ่อเด่นกลับมา ก็รอแล้วรอเล่า จนค่ำมืด แม่ตัดสินใจเดินตามหา ทั้งวิ่ง ทั้งเดินตะโกนหา พ่อเด่น กลัวว่าแกจะไม่สบาย เป็นลมหรือเป็นอะไรไป
“แม่วิ่งหาอยู่คนเดียวกลางคืน ตะโกนเรียกแก วิ่งหา ร้องหาในป่ากลางคืนอยู่คนเดียว ตาเด่น ตาเด่น อยู่ไหน กลัวเหลือเกินว่าแกจะเป็นลม แม่วิ่งหาพ่อเด่นจนหมดแรง เกือบ 3 ทุ่มจึงหยุดกลับบ้าน”
เช้าตรู่ของอีกวัน แม่ภาพ ยังคงใจจดใจจ่อ เข้าไปในป่าเพื่อหาพ่อเด่นอีกรอบ ตามลำพัง
“ตื่นเช้าวันที่ 17 ตอนเช้ามืดแม่ก็เข้าไปหาพ่อเด่นคนเดียวอีกรอบ ตอนนี้กลัวว่า ตาเด่นจะโดนจับหรือเปล่า นึกว่าเจ้าหน้าที่จะจับตัวไป ที่เข้าไปในป่าทุ่งลุยลาย
แน่นอนว่า ชาวบ้านทุ่งลุยลาย ที่ใช้พื้นทีป่าภูเขียว เป็นแหล่งทำมาหากิน เข้าป่า ล่าสัตว์ หาของป่า เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจ้าหน้าทีป่าไม้จนเป็นเรื่องปกติ พ่อเด่น ก็เช่นกัน แต่ศักดิ์ว่า พ่อเด่นเป็นแกนนำต่อสู้ที่ดิน และปักหลักต่อสู้มาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่
“การกระทบกระทั่งกับป่าไม้ มีแน่นอน เขาจะให้ตาเด่น ออกจาพื้นที่โคกยาว ตาเด่นแกเป็นแกนนำคนโคกยาว ต่อสู้เรื่องทีดินทำมาหากิน”
ที่ผ่านมาแกไปทำเนียบ ไปต่อสู้กับกลุ่มชาวบ้าน ไปเรียกร้องนายกฯ ตาเด่นสู้มาหลายปีแล้ว ไม่เคยหยุด ป่าไม้เขาให้เราออกจากพื้นที่ แต่พวกเราก็ปักหลักสู้ เขาสนธิกำลังมาหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือน มีนาคมที่ผ่านมา ป่าไม้มาปักป้ายไล่ ใกล้ๆบ้านเรา ห่างไปประมาณ 1 ก.ม. เขามาเจรจาสนธิกำลังมากันเป็นสิบๆคันรถ ป่าไม้โคราชก็มา นายอำเภอก็มารวมทั้ง ทีมป่าไม้ ชย.4 (หน่วยป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าชัยภูมิ 4) ที่เขาบอกว่ารับผิดชอบโดยตรง”
เขาบอกว่า เราอยู่ในเขตป่าสงวน ภูซำผักหนาม แต่วันนั้นเขาบอกพ่อเด่นว่า จุดที่เขาปักป้าย ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของตาเด่น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็หายเงียบไป
“ป่าไม้เขาก็บอกว่า ไม่ใช่พื้นที่พ่อเด่น ที่เขามาปักป้าย”
“เมื่อวันที่ 2 พ.ค. แม่ไปสถานีตำรวจกับชาวบ้าน เอาท่อนไม้ ที่สงสัย ไปให้ตำรวจ ตำรวจบอกแม่ว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของป่าไม้ และวันที่ 6 เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะปูพรมหาชุดใหญ่อีกครั้ง”
ทั้งนี้กลุ่มชาวบ้านเครือข่ายปฎิรูปที่ดิน ระดมพลออกปฎิบัติการค้นหานายเด่น อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน
“ชาวบ้านเขาก็ช่วยกันหาวันละเป็นร้อยๆคน หลายวันเข้ามันก็เหนื่อยก็ยาก พวกเขาก็ลำบากกัน”
แม่ภาพบอกว่า พ่อเด่น หายไปเกินกว่าครึ่งเดือนแล้ว ถ้า หายไป 3 ถึง 4 วัน อาจจะยังพอมีหวังว่ายังรอดชีวิตอยู่
“ตาเด่นหายไปนานแล้ว เปอร์เซนต์รอดไม่มีเลย กลางคืน แม่นอนร้องไห้ อยู่คนเดียว ที่บ้าน ลูกเต้าก็ไม่มี มันทุกข์ยากเหลือเกิน “
“แม่ทำบุญให้แก ถ้าตาเด่นตายไปแล้ว ก็ขอให้ได้รับผลบุญที่แม่อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ แต่ถ้าตาเด่นยังอยู่ ยังมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ ขอให้ตาเด่นกลับมา มันลำบากกันเหลือเกิน แต่ถ้าไปแล้ว ก็ให้มาเข้าฝันแม่ มาบอกจุด ว่าตาเด่นอยู่ตรงไหน จุดไหนจะได้หาถูก”
เสียงสะอื้นของแม่ภาพ กลบคำพูดที่ พยามอย่างมากที่จะเล่าให้จบว่าแกได้ทำอะไรบ้างในระหว่างที่เฝ้ารอ สามี
“น้ำตาแม่มันไหลไม่หยุดเลย ไม่มีลูกไม่มีเต้า นอนอยู่คนเดียว รอตาเด่น กลับมาเถิดตาเด่น มันทุกข์ยากลำบากจริงๆ แม่นอนคนเดียว มาตั้งแต่วันที่ตาเด่นหายไป สวดมนต์ ไหว้พระ ขอพรให้ตาเด่น เพิ่งเมื่อคืนที่มีเพื่อนมานอนด้วยแต่เขาก็ต้องรีบลุกขึ้นไปเพราะต้องไปกรีดยาง”
“วันนี้กินข้าวไม่ลงแล้ว เขาคนอื่นเขาก็ลำบากไปหมด นอนก็ไม่หลับมันทุกข์ ลูกเต้าก็ไม่มี เหลือแต่พ่อเด่น แแม่ก็จะรอพ่อเด่น จะกลับมาแบบไหนแม่ก็จะรอเขา”
บทความโดย มุลนิธิผสานวัฒนธรรม