ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงานติดตามคนหายและพิสูจน์ศพนิรนาม
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงานติดตามคนหายและพิสูจน์ศพนิรนาม
พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยที่เป็นการสมควรให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม
เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและให้เกิดความเป็นธรรมในสังคมไทย แต่การดำเนินการดังกล่าว
เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรม จึงสมควรกำหนดแนวทาง
เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานติดตามคนหายและพิสูจน์ศพนิรนามในลักษณะบูรณาการและเป็นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑ (๘) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสนับสนุนการปฏิบัติงาน
ติดตามคนหายและพิสูจน์ศพนิรนาม พ.ศ. ๒๕๕๘”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“คนหาย” หมายความว่า บุคคลที่หายไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่โดยไม่สามารถติดต่อได้
เป็นเวลาไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง หรือไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
“ศพนิรนาม” หมายความว่า ศพหรือชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ที่ทำให้เชื่อหรือมีเหตุอันควร
สงสัยว่ามีบุคคลใดเสียชีวิต โดยไม่สามารถระบุได้ว่าศพหรือชิ้นส่วนอวัยวะเป็นบุคคลใด
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า หน่วยงานของรัฐซึ่งตามกฎหมายมีอำนาจหน้าที่ในการรับแจ้ง
ติดตาม สืบสวน สอบสวน หรือพิสูจน์เกี่ยวกับคนหายและศพนิรนาม
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการพัฒนาระบบการติดตามคนหาย
และการพิสูจน์ศพนิรนาม
ข้อ ๔ การดำเนินการตามระเบียบนี้ต้องไม่กระทบต่อการใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ข้อ ๕ ให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม เรียกโดยย่อว่า
“ค.พ.ศ.” ประกอบด้วย
(๑) รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ
หน้า ๒
เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘
(๒) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธานกรรมการ
(๓) กรรมการโดยตำแหน่งจำนวนสิบเอ็ดคน ได้แก่ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการ
ตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ผู้บังคับการ
สถาบันนิติเวชวิทยา ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม
(๔) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งประธานกรรมการแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญ
มีผลงาน และประสบการณ์ด้านนิติเวชศาสตร์ ด้านการพิสูจน์หลักฐาน หรือด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
จำนวนไม่เกินสามคน เป็นกรรมการ
ให้ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ผู้อำนวยการ
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แต่งตั้งข้าราชการของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จำนวนไม่เกินสองคนเป็น
ผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ ๖ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปี
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระหรือในกรณีที่ประธานกรรมการ
แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ใน
ตำแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างหรือเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับ
วาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่
ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่า
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้แต่จะดำรงตำแหน่ง
ติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้
ข้อ ๗ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ค.พ.ศ. มีมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
เพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ
(๔) เป็นบุคคลล้มละลาย
(๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
หน้า ๓
เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘
(๖) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำ
โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
ข้อ ๘ ค.พ.ศ. มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) จัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนระดับชาติเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการติดตามคนหาย
และการพิสูจน์ศพนิรนาม เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ
(๒) ให้ความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินการติดตามคนหาย
และการพิสูจน์ศพนิรนาม
(๓) ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการดำเนินการติดตามคนหายและ
การพิสูจน์ศพนิรนามของหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาระบบการติดตามคนหาย
และการพิสูจน์ศพนิรนาม
(๔) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และแบบในการแจ้ง การจัดเก็บ การรวบรวม และการประสานข้อมูล
เกี่ยวกับคนหายและศพนิรนามตามระเบียบนี้
(๕) กำหนดแนวทางให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมข้อมูล
เกี่ยวกับคนหายและศพนิรนาม
(๖) สนับสนุนและส่งเสริมภาคเอกชนและประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามคนหาย
และการพิสูจน์ศพนิรนาม
(๗) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติงานตามที่ ค.พ.ศ. มอบหมาย
(๘) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ข้อ ๙ การประชุม ค.พ.ศ. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน
กรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ในการประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองประธานกรรมการ
เป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติ
หน้าที่ได้ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการ
ลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ ๑๐ การประชุมคณะอนุกรรมการ ให้นำข้อ ๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
หน้า ๔
เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘
ข้อ ๑๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบนี้ ค.พ.ศ. หรือคณะอนุกรรมการ อาจขอให้
หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจัดส่งเอกสาร ข้อมูล หรือชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการ
พิจารณาได้ตามความจำเป็น
ข้อ ๑๒ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการ
ของ ค.พ.ศ. และให้มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) รับผิดชอบในงานธุรการ งานวิชาการ งานการประชุม และงานเลขานุการของ ค.พ.ศ.
(๒) รับแจ้ง จัดเก็บ รวบรวม และประสานข้อมูลเกี่ยวกับคนหายและศพนิรนามจาก
หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และประชาชน
(๓) วิเคราะห์ ประเมินผล และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาในการติดตามคนหายและ
การพิสูจน์ศพนิรนาม เพื่อจัดทำรายงานเสนอต่อ ค.พ.ศ.
(๔) ช่วยเหลือ สนับสนุน และประสานงานการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม
แก่หน่วยงานของรัฐ
(๕) เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคนหายและศพนิรนามให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อเป็นช่องทาง
ในการช่วยเหลือและสนับสนุนการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนามของหน่วยงานของรัฐ
(๖) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ ค.พ.ศ. มอบหมาย
ข้อ ๑๓ ให้หน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของ ค.พ.ศ.
คณะอนุกรรมการ และสำนักงานตามระเบียบนี้
ข้อ ๑๔ เมื่อหน่วยงานของรัฐใดได้รับแจ้งว่ามีคนหาย ให้หน่วยงานของรัฐนั้นแจ้งข้อมูล
ดังกล่าวให้สำนักงานทราบโดยเร็ว
ในกรณีที่มีผู้มาแจ้งต่อสำนักงานว่ามีคนหาย ให้สำนักงานรีบจัดเก็บข้อมูลนั้น และจัดส่งตัว
ผู้แจ้งพร้อมข้อมูลดังกล่าวไปยังสถานีตำรวจใกล้เคียงทันที เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ข้อ ๑๕ เมื่อหน่วยงานของรัฐแห่งใดได้พบตัวคนหายแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐนั้น รีบแจ้ง
ข้อมูลดังกล่าวให้สำนักงานทราบโดยเร็ว เพื่อจำหน่ายชื่อบุคคลนั้นออกจากข้อมูลคนหาย
ในกรณีที่สำนักงานเป็นผู้พบตัวคนหายก่อน ให้สำนักงานรีบจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวและจัดส่งตัวบุคคล
ที่พบพร้อมข้อมูลนั้นไปยังสถานีตำรวจใกล้เคียงทันที เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป และให้
สำนักงานแจ้งการพบตัวคนหายต่อหน่วยงานของรัฐที่ได้รับแจ้งคนหายตามข้อ ๑๔
ข้อ ๑๖ เมื่อหน่วยงานของรัฐใดได้รับแจ้งว่ามีการพบศพนิรนาม ให้หน่วยงานของรัฐนั้น
แจ้งข้อมูลดังกล่าวให้สำนักงานทราบโดยเร็ว
หน้า ๕
เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘
ในกรณีที่มีผู้มาแจ้งต่อสำนักงานว่ามีการพบศพนิรนาม ให้สำนักงานรีบจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว
และจัดส่งตัวผู้แจ้งพร้อมข้อมูลนั้นไปยังสถานีตำรวจใกล้เคียงทันที เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ต่อไป
ข้อ ๑๗ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐใดไม่สามารถระบุได้ว่าศพนิรนามเป็นบุคคลใด หรือศพนิรนาม
ที่ต้องทำการตรวจพิสูจน์มีจำนวนมาก หน่วยงานของรัฐนั้นอาจร้องขอให้สำนักงานเป็นผู้ดำเนินการ
ตรวจพิสูจน์ศพนิรนามดังกล่าวก็ได้
เมื่อสำนักงานได้ตรวจพิสูจน์ศพนิรนามตามวรรคหนึ่งแล้ว สามารถระบุได้ว่าเป็นบุคคลใด
ให้สำนักงานรีบจัดเก็บข้อมูลที่ตรวจพิสูจน์ได้และแจ้งข้อมูลดังกล่าวต่อหน่วยงานของรัฐที่ร้องขอทราบทันที
เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ข้อ ๑๘ เพื่อประโยชน์ในการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม ให้สำนักงาน
แจ้งข้อมูลตามข้อ ๑๔ ข้อ ๑๕ ข้อ ๑๖ และข้อ ๑๗ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบด้วย และให้
สำนักงานและสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานงานกันในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับคนหายและศพนิรนาม
ข้อ ๑๙ หลักเกณฑ์ วิธีการ และแบบในการแจ้ง การจัดเก็บ การรวบรวม การประสานข้อมูล
และการดำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับคนหายหรือศพนิรนามตามข้อ ๑๔ ข้อ ๑๕ ข้อ ๑๖ ข้อ ๑๗
และข้อ ๑๘ ให้เป็นไปตามที่ ค.พ.ศ. ประกาศกำหนด
ข้อ ๒๐ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี