[:th]CrCF Logo[:]
ขอมาตรการคุ้มครองการประกอบกิจกรรมทางศาสนาในพื้นที่ จ.ชายแดนใต้ กรณีคนร้ายวางระเบิดชุด รปภ. พระสงฆ์ที่สายบุรี จ.ปัตตานี

ขอมาตรการคุ้มครองการประกอบกิจกรรมทางศาสนาในพื้นที่ จ.ชายแดนใต้ กรณีคนร้ายวางระเบิดชุด รปภ. พระสงฆ์ที่สายบุรี จ.ปัตตานี

Share

เผยแพร่วันที่ 26 กรกฎาคม 2558

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอให้กำหนดมาตรการคุ้มครองการประกอบกิจกรรมทางศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จากกรณีคนร้ายที่ลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ที่สายบุรี จังหวัดปัตตานี

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเป็นองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร ได้จดทะเบียนไว้กับกระทรวงวัฒนธรรม เลขที่ ต.9/2545 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเคารพสิทธิในการยึดถือและปฎิบัติทางวัฒนธรรมทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิทธิมนุษยชน ศาสนา ศิลปะ ประเพณีปฏิบัติของบุคคลต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ แลกเปลี่ยน ตระหนักถึงความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม มูลนิธิฯ เป็นองค์การพัฒนาเอกชนที่เป้นอิสระไม่ฝักใฝ่หรือเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเฉพาะ มูลนิธิฯ ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนเสมอมา โดยเฉพาะในกรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรัฐและประชาชน หรือระหว่างกลุ่มบุคคลต่างๆในสังคม และมูลนิธิฯ หวังว่าการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างกลุ่มบุคคลต่างๆ จะทำให้เกิดความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างยั่งยืน

มูลนิผสานวัฒนธรรมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อกรณีความสูญเสียของครอบครัวและญาติจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ขณะออกบิณฑบาตร ในพื้นที่ตลาดเทศบาลตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีเป็นเหตุให้พระสงฆ์มรณะภาพหนึ่งรูปและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์หนึ่งนายเสีียชีวิต อีกทัั้งมีพระสงฆ์และประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้บาดเจ็บเหตุเกิดเมื่อวันที่25กรกฎาคม2558

การบิณฑบาตรเป็นกิจกรรมของสงฆ์และเป็นกิจกรรมทางศาสนาของชาวไทยพุทธที่ต้องได้รับการปกป้องและคุ้มครองทั้งนี้เพื่อสนับสนุนส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับการเคารพ

การลอบวางระเบิดในที่สาธาณะเช่นตลาดสดในเวลาที่คาดการณ์ได้ว่าจะมีกิจกรรมทางศาสนาลักษณะนี้เกิดขึ้นและมีประชาชนผู้บริสุทธิ์อยู่เป็นจำนวนมากเป็นการกระทำที่อุกอาจรุนแรง ไร้มนุษยธรรม และจะนำพาซึ่งความโกรธแค้นชิงชังของประชาชนในสังคมและอาจสร้างให้เกิดความแตกแยกร้าวลึกขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนาน และเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ห้ามไม่ให้มีการโจมตีบุคคลากรและสถานที่สาธารณะ เช่นโรงเรียน สถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา ศาสนาสถาน สถานพยาบาล เป็นต้น

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเรียกร้องให้กลุ่มใช้ความรุนแรงทุกกลุ่มยุติความรุนแรงและการกกระทำดังกล่าว ปัจจุบันประชาชนชาวไทยพุทธและชนกลุ่มน้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีสภาวะหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมามีกลุ่มติดอาวุธหลากหลายกลุ่มมักจะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความสูญเสียต่อทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา สร้างความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจและความไม่ไว้วางใจระหว่างประชาชนด้วยกัน และระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการกองกำลังรักษาความมั่นคงภายในภาคสี่ส่วนหน้าได้สร้างมาตรการคุ้มครองพระสงฆ์และพุทธศาสนิกในการประกอบกิจกรรมศาสนาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจหมายถึงเปลี่ยงแปลงรูปแบบการคุุ้มกันโดยบุคคลกรฝ่ายอื่นที่เหมาะสมกว่า รวมทั้งการจัดหน่วยระวังเหตุหรือตรวจตราสถานที่โดยการขอความร่วมมือกับชุมชนและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้แล้วยังต้องแสวงหาทางป้องกันการโต้ตอบเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์น้อยที่สุด อีกทั้งโดยการปราบปรามการก่อความไม่สงบต้องยึดมั่นต่อการบังคับใช้กฎหมายและเคารพต่อหลักการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เพื่อลดเงื่อนไขอันอาจนำมาสู่การทำร้ายผู้บริสุทธิ์ได้

มูลนิธิฯ ขอเสนอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแสวงหาแนวทางรวมกันอย่างเป็นรูปธรรมกับกลุ่มไทยพุทธและชุมชนที่เป็นประชาชนกลุ่มน้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นระหว่างสมาชิกชุมชนด้วยกันเองและกับเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานในท้องที่ ในการที่จะคุ้มครองปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่เป็นจริงให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สิทธิในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยสิน การห้ามไม่ให้มีการบังคับขับไล่ประชาชน สิทธิในการนับถือศาสนาและปฏิบัติศาสนกิจ เป็นต้น รวมทั้งการร่วมพูดคุยตามแนวทางสันติสุข เพื่อนำพาไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน

ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ 02-6934939