[:th]CrCF Logo[:]
คสช.

คู่มือการปฏิบัติ ในกรณีถูกเรียกให้ไปรายงานตามคำสั่ง คสช.

Share

คู่มือการปฏิบัติในกรณีถูกเรียกให้ไปรายงานตามคำสั่งคณะรักษาความสงบ (ทำอย่างไรเมื่อถูก คสช. เรียกตัว) สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กรณีไปรายงานตัว ผู้ถูกเรียกตัวและญาติควรปฏิบัติ ดังนี้

  • ติดต่อแจ้งญาติ เพื่อน คนใกล้ชิด (ญาติดีที่สุด)
  • เมื่อไปรายงานตัวควรมีญาติหรือคนใกล้ชิดเดินทางไปด้วย และควรมากกว่าหนึ่งคน
  • ควรจะนัดหมายให้ผู้ถูกเรียกตัวคนอื่นๆที่รู้จักไปพร้อมกัน
  • ญาติ เพื่อน บุคคลใกล้ชิด ควรสร้างความรู้จักกันเพื่อติดตามสถานการณ์
  • ผู้ถูกเรียกตัวและญาติควรทำบันทึกรายละเอียดวัน เวลา สถานที่ที่ไปรายงานตัว เจ้าหน้าที่ผู้รับรายงานตัว เบอร์โทรศัพท์ และรายละเอียดเท่าที่มีให้ได้มากที่สุด
  • ก่อนไปรายงานตัวควรเก็บหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและสภาพร่างกาย เช่น การถ่ายรูปส่วนต่างๆของร่างกาย ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี) เป็นต้น
  • สอบถามระยะเวลาที่ใช้ในการรายงานตัว ถ้าไม่ปล่อยตัว ให้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าจะควบคุมตัวที่ไหน กี่วัน
  • ให้ญาติสอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องช่องทางการติดต่อสื่อสารกับผู้ถูกเรียกตัว เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ กรณียังไม่ปล่อยตัว
  • ให้ผู้ถูกเรียกตัวนำของใช้ส่วนตัว ยาประจำตัวและสิ่งของที่จำเป็น ติดตัวไป
  • ถ้าถูกปล่อยตัว ให้ทำบันทึกเวลา สถานที่ และสภาพร่างกายทันที ถ่ายรูปบันทึกสภาพร่างกายเพื่อเป็นหลักฐาน

    กรณีถูกซักถามโดยเจ้าหน้าที่ ผู้ถูกซักถามควรปฏิบัติ ดังนี้
  • ถ้าแน่ใจว่าข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่กล่าวหาไม่ถูกต้อง ต้องปฏิเสธ
  • ให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็น
  • ไม่ควรพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เกินกว่าที่จำเป็น ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
  • หากเจ้าหน้าที่ให้เซนต์เอกสาร ควรอ่านเอกสารให้ครบถ้วน และดูว่าตรงกับความเป็นจริงที่เรารับรู้หรือไม่ (ต้องไม่ใช่สิ่งที่ผู้ถูกควบคุมคิดหรือคาดเดาไปเอง) หากไม่ถูกต้องให้เจ้าหน้าที่แก้ไขให้ถูกตรง หากเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ ผู้ถูกควบคุมตัวมีสิทธิไม่เซนต์
  • โปรดระวังว่าเอกสารทุกชนิดถูกนำมาใช้ในชั้นศาลได้

    มาตรการเตรียมตัวเมื่อรู้ว่าตนมีความเสี่ยงที่จะถูกจับกุม (เข่น กรณีจะไปชุมนุม)
  • ผู้มีความเสี่ยงก่อนออกไปควรทิ้งสถานที่ที่จะไป และการติดต่อต่างๆ
  • ควรถ่ายรูปขณะเดินทางหรือขณะชุมนุม เพื่อให้คนอื่นติดตามที่อยู่ได้

    กรณีถูกจับกุม
  • ผู้ถูกจับกุม
    • ควรบอก ชื่อ นามสกุล เบอร์ติดต่อญาติหรือคนใกล้ชิด ให้คนที่อยู่บริเวณที่ถูกจับกุมทราบ
    • ควรสอบถามว่าจะถูกควบคุมตัวไปไว้ที่ไหน
    • ควรแชร์ตำแหน่งที่อยู่ของตนเป็นระยะ ว่าถูกควบคุมตัวไว้ในที่ไหน
    • ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ให้ผู้ถูกจับกุมแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับไว้วางใจถึงการถูกจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวในโอกาสแรก หากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ก็ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อให้
    • ควรแจ้งให้ญาติหรือคนใกล้ชิดมาขอเยี่ยมทันทีที่ถูกกักตัว
  • กรณีถูกซักถามโดยเจ้าหน้าที่
    • ถ้าแน่ใจว่าข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่กล่าวหาไม่ถูกต้อง ต้องปฏิเสธ
    • ให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็น
    • ไม่ควรพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เกินกว่าที่จำเป็น ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
  • หากเจ้าหน้าที่ให้เซนต์เอกสาร ควรอ่านเอกสารให้ครบถ้วน และดูว่าตรงกับความเป็นจริงที่เรารับรู้หรือไม่ (ต้องไม่ใช่สิ่งที่ผู้ถูกควบคุมคิดหรือคาดเดาไปเอง) หากไม่ถูกต้องให้เจ้าหน้าที่แก้ไขให้ถูกตรง หากเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ ผู้ถูกควบคุมตัวมีสิทธิไม่เซนต์
  • กรณีถูกกักตัว
    • เจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจกักตัวได้ไม่เกิน 7 วัน (กฎอัยการศึก มาตรา 15 ทวิ) หากมีการควบคุมเกินกว่านั้น เป็นเรื่องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
    • กรณีที่ญาติอยู่ด้วยระหว่างมีการจับกุม ญาติควรตามไปเพื่อให้ทราบสถานที่กักตัวหรือควบคุมตัว
    • กรณีไม่ทราบสถานที่กักตัว ให้ญาติติดต่อสอบถามหน่วยงานทหารที่เกี่ยวข้องโดยแจ้งจุดที่ถูกจับให้เจ้าหน้าที่ทราบ
    • ญาติควรเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมในโอกาสแรก
    • ญาติควรเข้าเยี่ยมผู้ถูกกักตัวตั้งแต่วันแรก และทุกวัน (บ่อยๆเท่าที่เป็นไปได้)
    • ครบ 7 วัน ญาติควรไปรับผู้ถูกกักตัวจากสถานที่ควบคุมตัว หากครบ 7 วัน ยังไม่มีการปล่อยตัวให้ติดต่อทนายความเพื่อยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัว เนื่องจากเป็นการควบคุมตัวมิชอบด้วยกฎหมาย ตาม มาตรา 90 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
    • ในระหว่างการกักตัว 7 วันนั้น หากมีการนำตัวผู้ถูกเรียกให้รายงานตัวและถูกจับไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ให้ขอตำรวจแจ้งญาติให้ทราบทันที และให้เตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัว
    • เมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว มีสิทธิขอประกันตัวต่อพนักงานสอบสวน

      สิทธิของผู้ถูกจับ
    • กรณีการจับกุมตามกฎหมายพิเศษ ให้ดำเนินการได้เท่าที่จำเป็น
    • มีสิทธิแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับไว้วางใจ ทราบถึงการถูกจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวในโอกาสแรก
    • มีสิทธิพบและปรึกษาทนายความเป็นการเฉพาะตัว
    • มีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนในชั้นสอบสวนได้
    • ได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อญาตได้ตามสมควร
    • ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย
    • ได้รับแจ้งสิทธิจากเจ้าพนักงานหรือตำรวจในโอกาสแรก
    • ได้รับการเยี่ยม ตามสมควร
    • ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็ว เมื่อเกิดการเจ็บป่วย
    • ได้รับแจ้งข้อกล่าวหาหรือรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับให้ทราบ หากมีหมายจับ ต้องแสดงหมายจับให้ผู้ถูกจับทราบขณะจับกุม การจับตามพรก.ฉุกเฉินฯ /ป.วิฯอาญา จะมีหมายจับ เว้นแต่เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า หากจับตามกฎอัยการศึกไม่ต้องหมายจับ
    • มีสิทธิจะไม่ให้การหรือให้การก็ได้
    • สิทธิที่จะถูกนำตัวไปสถานีตำรวจทันที (กรณีเป็นผู้ต้องหาตามป.วิฯอาญา)
    • มีสิทธิได้รับสำเนาบันทึกการจับกุม
Loader Loading…
EAD Logo Taking too long?

Reload Reload document
| Open Open in new tab

Download [162.00 B]