ใบแจ้งข่าว กสม. และสภาทนายความช่วยคดี ญาติวิศวกรเหยื่อวิสามัญ และผู้รอดชีวิต ฟ้อง 6 ตำรวจสกลนคร ข้อหาเจตนาฆ่า และพยายามฆ่า ต่อศาลอาญา กรุงเทพ
วันนี้ เวลา 13.00 น ที่ ศาลอาญา กรุงเทพ นายส่งเสริม แสงฤทธิ์ นางเดือนใส แสงฤทธิ์ และผู้รอดชีวิตอีกสองจากเหตุการณ์ยิงนายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ วิศวกรหนุ่ม เสียชีวิต ได้ยื่นฟ้อง ดาบตำรวจสิทธิกุล กาติวงศ์ จำเลยที่ ๑ พันตำรวจโทวีระวุฒิ เสียงใส จำเลยที่ ๒ และดาบตำรวจ เฉลิมพล ใจปอด จำเลยที่ ๓ ดาบตำรวจนิสิต วงศ์ประทุม จำเลยที่ ๔ และพันตำรวจโทสุเทพ สนิทชน จำเลยที่ ๕ และ พันตำรวจโท ประกอบ ภูหงษ์เพชร จำเลยที่ ๖ ต่อศาลอาญา
ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่น เป็นพนักงานสอบสวนกระทำการอันมิชอบเพื่อช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลงเพื่อกลั่นแกล้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลง กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป โดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดี ใส่ความผู้ตายเป็นเหตุให้บิดา มารดา ของผู้ตายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๔ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สถานีตำรวจภูธรพรรณนานิคม จังหวัดสกลนครใช้อาวุธปืนยิงจำนวนหลายนัดไปที่รถยนต์ ซึ่งขณะนั้นมี นายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ เป็นผู้ขับ และมีผู้โดยสารข้างในรถอีกสองคน เหตุเกิดบริเวณใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตสกลนคร กระสุนทะลุเข้าสู่ภายในรถถูกนายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ ที่บริเวณหลังหูซ้ายส่วนล่าง ทะลุผ่านกล้ามเนื้อบริเวณลำคอด้านซ้าย ถึงแก่ความตาย ส่วนผู้โดยสารอีกสองคนรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด
ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ได้อ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบตามกฎหมาย เนื่องจาก นายไพโรจน์ผู้เสียชีวิตมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และต่อสู้ขัดขวาง และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิต และผู้รอดชีวิตยืนยันว่าผู้ตายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และไม่มีอาวุธ ไม่ได้ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด และภายหลังที่ผู้ตายเสียชีวิตได้มีการพยายามซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่ศพของผู้ตาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการกล่าวโทษผู้ตาย โดยเจตนาเพื่อจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหกนายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ญาติของผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิตจึงมีความประสงค์จะยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดเพื่อขอความเป็นธรรมต่อศาลยุติธรรม และเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้ตายและครอบครัวกลับคืนมา
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี ติดต่อ นางสาวจันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความ สภาทนายความ โทร 083-907-2032
** คดีนี้ญาติได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และต่อมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ประสานของความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความ