มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เผยแพร่วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555
ใบแจ้งข่าว คณะกรรมการยูเอ็นด้านการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ เสนอให้รัฐประเมินความจำเป็นและทบทวนกฎหมายพิเศษในพื้นที่ จชต. และเรียกร้องให้กอ.รมน. ทำรายงานเสนอยูเอ็นในคราวต่อไป
ในรายงานข้อสังเกตเชิงสรุปของคณะกรรมการว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบของการประชุมทบทวนรายงานของประเทศสมาชิกครั้งที่ 81 ระหว่างวันที่ 6-31 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ที่กรุงเจนีวา รายงานข้อสังเกตุเชิงสรุปต่อประเทศไทยระบุว่า “แม้ว่ารัฐภาคีจะนำมาตรการต่าง ๆ มาใช้ อย่างเช่น การเผยแพร่คู่มือสิทธิมนุษยชนและการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในบางพื้นที่ คณะกรรมการยังกังวลอย่างยิ่งต่อการเลือกปฏิบัติอันเป็นผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในจังหวัดชายแดนใต้
รวมทั้งรายงานว่ามีการตรวจลักษณะทางชาติพันธุ์และจับกุมบุคคลโดยอาศัยการคัดกรองจากลักษณะทางชาติพันธุ์ (racial profiling) รวมทั้งรายงานว่ามีการซ้อมทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งเกิดขึ้นกับคนไทยเชื้อสายมลายู คณะกรรมการกังวลต่อไปถึงความเสี่ยงของการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงอันเป็นผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ รวมทั้งการขาดกลไกกำกับดูแลในการปฏิบัติ นอกจากการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในการปราบปรามการก่อความไม่สงบแล้ว” คณะกรรมการเรียกร้องให้รัฐ (ก) ประเมินความจำเป็นของกฎหมายพิเศษและกำหนดให้มีกลไกอิสระที่กำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง (ข) ทบทวนกฎหมายพิเศษโดยมีเจตจำนงเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกฎบัตรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการซ้อมทรมาน และ(ค) ให้สอบสวนข้อกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ และให้นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษด้วย
ข้อเสนอในเกี่ยวกับความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้รายงานในย่อหน้าที่ 20 และ 21 ในรายงานข้อสังเกตเชิงสรุปของคณะกรรมการว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบที่เผยแพร่ในเวปไซด์ขององค์การสหประชาชาติที่ http://www2.ohchr.org/english/bodies/cerd/docs/CERD.C.THA.CO.1-3.pdf ทั้งนี้ทางคณะกรรมการขอให้รัฐภาคีแจ้งในรายงานตามวาระฉบับต่อไปเกี่ยวกับผลกระทบของยุทธศาสตร์ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) นำมาใช้ รวมทั้งแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2552 – 2555 ที่ครอบคลุมการหาแนวทางออกที่เหมาะสมสำหรับความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
นอกจากนี้คณะกรรมการกังวลต่อรายงานที่ว่าผู้หญิงเชื้อสายมลายูกำลังเผชิญการเลือกปฏิบัติซ้ำซ้อน ทั้งในพื้นที่การเมืองและชีวิตทางสังคมว่าเมือคำนึงถึงความเหลื่อมล้ำของชาติพันธุ์และศาสนาในบางสถานการณ์ และเมื่อพิจารณาถึงข้อเสนอแนะทั่วไปที่ 25 (2543) ของคณะกรรมการ คณะกรรมการเรียกร้องให้รัฐภาคีให้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น รวมทั้งมาตรการด้านกฎหมาย เพื่อประกันให้มีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและไม่ให้ปฏิบัติอย่างแยกแยะต่อผู้หญิงเชื้อสายมลายู ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับอนุสัญญา
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ Tel. 02-2753954