มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เผยแพร่วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
แถลงการณ์ เรียกร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หามาตรการควบคุม และเข้มงวดตรวจสอบการครอบครองอาวุธ ร่วมป้องกันการเข่นฆ่าต่อกันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากเหตุการณ์คนร้ายได้ลอบวางระเบิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 บนถนนสายบ้านอูเป๊าะ-บ้านปากาซาแม หมู่ 7 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา โดยคนร้ายได้ทำการติดตั้งระเบิดไว้ในรถ และจอดทิ้งไว้เพื่อรอการจุดชนวนระเบิดขณะที่รถกระบะยี่ห้อมาสด้าสีน้ำเงิน-เทา หมายเลขทะเบียน บจ 3454 ยะลา ซึ่งเป็นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับผ่านเป็นเหตุให้รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่เสียหลักพุ่งตกลงข้างตลิ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต จำนวน 5 นาย ประกอบด้วย (1) ร.ต.ท. สุธรรม อ้นทอง (2) ด.ต. แวอูเซ็ง แวเด็ง (3) ส.ต.อ. ณัฐพงษ์ บุญโกมล (4) ส.ต.อ. ประเสริฐ รอดกุล และ (5) ส.ต.อ. วิชานนท์นามภักดี และบาดเจ็บหนึ่งนายทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 มีเหตุการณ์ที่คนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเขตธุรกิจการค้า ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 ราย ซึ่งนับว่าสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายภาคใต้ ได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตามรายงานของศูนย์ข่าวอิศรา ได้ระบุว่า ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ศจฉ. กอ.รมน. ภาค 4 สน.) รายงานสถิติเหตุรุนแรงในรอบเดือน มิ.ย. 2555 ระบุว่า มีเหตุร้ายเกิดขึ้นทั้งสิ้น 78ครั้ง สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2554 เป็นต้นมา หรือสูงที่สุดในรอบ 8 เดือนเหตุ รายงานสถิติความรุนแรงที่เกิดขึ้นนับเป็นเป็นข้อมูลที่เน้นย้ำและสะท้อนถึงเสถียรภาพและประสิทธิภาพในการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทุกท่าน และต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุรุนแรง ขอเรียกร้องต่อสังคมไม่ให้สนับสนุนความรุนแรงหรือชื่นชมต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ว่าความรุนแรงดังกล่าวจะมาจากฝ่ายใด ทั้งในการเผยแพร่ตามสื่ออินเตอร์เนท และโดยวิธีการอื่นใด หนทางการแก้ไขความรุนแรงทางอาวุธที่สำคัญคือการลดอาวุธในพื้นที่ความขัดแย้ง เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงท่าทีและความจริงจังต่อการลดอาวุธทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายและเพื่อเป็นประกันว่าบุคคลจะไม่ถูกให้ทำเสียชีวิตจากการใช้อาวุธเพื่อประหัตประหารเข่นฆ่าต่อกัน อีกทั้งการสะสมกำลังทางทหารและอาวุธย่อมสร้างให้เกิดความหวาดระแวงต่อกันมากขึ้น
นอกจากนี้การแพร่หลายของอาวุธปืนขนาดเล็กยังเป็นต้นเหตุความรุนแรงในลักษณะการลอบสังหารต่อประชาชนรายวันอย่างต่อเนื่อง กลุ่มเป้าหมายหนึ่งคือบุคคลที่เคยตกเป็นจำเลยในคดีความมั่นคงยกฟ้อง หรือได้รายงานตัวกับหน่วยงานของรัฐเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ การถูกลอบสังหารโดยไม่ทราบสาเหตุและวัตถุประสงค์เป้าหมายของการสังหาร นั้นสร้างให้เกิดความหวาดกลัวและขาดความเชื่อมั่นต่อแนวทางของรัฐ เช่นกรณีนายอับดุลเลาะ เจ็ะตีแม ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2555 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเรียกร้องให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการอย่างถึงที่สุดที่จะสร้างมาตรการควบคุมเข็มงวดในการตรวจตรา ตรวจสอบ และลดปริมาณอาวุธทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายในพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อลดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพยสินให้เป็นจริง พร้อมทั้งติดตามหาผู้กระทำผิดที่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและรอบคอบ
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 02-6934939
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เผยแพร่วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
แถลงการณ์ เรียกร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หามาตรการควบคุม และเข้มงวดตรวจสอบการครอบครองอาวุธ ร่วมป้องกันการเข่นฆ่าต่อกันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากเหตุการณ์คนร้ายได้ลอบวางระเบิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 บนถนนสายบ้านอูเป๊าะ-บ้านปากาซาแม หมู่ 7 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา โดยคนร้ายได้ทำการติดตั้งระเบิดไว้ในรถ และจอดทิ้งไว้เพื่อรอการจุดชนวนระเบิดขณะที่รถกระบะยี่ห้อมาสด้าสีน้ำเงิน-เทา หมายเลขทะเบียน บจ 3454 ยะลา ซึ่งเป็นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับผ่านเป็นเหตุให้รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่เสียหลักพุ่งตกลงข้างตลิ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต จำนวน 5 นาย ประกอบด้วย (1) ร.ต.ท. สุธรรม อ้นทอง (2) ด.ต. แวอูเซ็ง แวเด็ง (3) ส.ต.อ. ณัฐพงษ์ บุญโกมล (4) ส.ต.อ. ประเสริฐ รอดกุล และ (5) ส.ต.อ. วิชานนท์นามภักดี และบาดเจ็บหนึ่งนายทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 มีเหตุการณ์ที่คนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเขตธุรกิจการค้า ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 ราย ซึ่งนับว่าสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายภาคใต้ ได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตามรายงานของศูนย์ข่าวอิศรา ได้ระบุว่า ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ศจฉ. กอ.รมน. ภาค 4 สน.) รายงานสถิติเหตุรุนแรงในรอบเดือน มิ.ย. 2555 ระบุว่า มีเหตุร้ายเกิดขึ้นทั้งสิ้น 78ครั้ง สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2554 เป็นต้นมา หรือสูงที่สุดในรอบ 8 เดือนเหตุ รายงานสถิติความรุนแรงที่เกิดขึ้นนับเป็นเป็นข้อมูลที่เน้นย้ำและสะท้อนถึงเสถียรภาพและประสิทธิภาพในการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทุกท่าน และต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อเหตุรุนแรง ขอเรียกร้องต่อสังคมไม่ให้สนับสนุนความรุนแรงหรือชื่นชมต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ว่าความรุนแรงดังกล่าวจะมาจากฝ่ายใด ทั้งในการเผยแพร่ตามสื่ออินเตอร์เนท และโดยวิธีการอื่นใด หนทางการแก้ไขความรุนแรงทางอาวุธที่สำคัญคือการลดอาวุธในพื้นที่ความขัดแย้ง เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงท่าทีและความจริงจังต่อการลดอาวุธทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายและเพื่อเป็นประกันว่าบุคคลจะไม่ถูกให้ทำเสียชีวิตจากการใช้อาวุธเพื่อประหัตประหารเข่นฆ่าต่อกัน อีกทั้งการสะสมกำลังทางทหารและอาวุธย่อมสร้างให้เกิดความหวาดระแวงต่อกันมากขึ้น
นอกจากนี้การแพร่หลายของอาวุธปืนขนาดเล็กยังเป็นต้นเหตุความรุนแรงในลักษณะการลอบสังหารต่อประชาชนรายวันอย่างต่อเนื่อง กลุ่มเป้าหมายหนึ่งคือบุคคลที่เคยตกเป็นจำเลยในคดีความมั่นคงยกฟ้อง หรือได้รายงานตัวกับหน่วยงานของรัฐเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ การถูกลอบสังหารโดยไม่ทราบสาเหตุและวัตถุประสงค์เป้าหมายของการสังหาร นั้นสร้างให้เกิดความหวาดกลัวและขาดความเชื่อมั่นต่อแนวทางของรัฐ เช่นกรณีนายอับดุลเลาะ เจ็ะตีแม ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2555 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเรียกร้องให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการอย่างถึงที่สุดที่จะสร้างมาตรการควบคุมเข็มงวดในการตรวจตรา ตรวจสอบ และลดปริมาณอาวุธทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายในพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อลดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพยสินให้เป็นจริง พร้อมทั้งติดตามหาผู้กระทำผิดที่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและรอบคอบ
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 02-6934939