เนื่องจากมี “กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง ระเบียบคำสั่งและแนวปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่” มาอย่างต่อเนื่องนับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ เรื่อยมา โดยปัจจุบัน มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. ๒๔๕๗ และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ในพื้นที่จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลาน และมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ในพื้นที่อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอจะนะ ของจังหวัดสงขลา
โดยการบังคับใช้กฎหมายพิเศษทั้งสามฉบับดังกล่าวนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกประกาศ ระเบียบ คำสั่ง และแนวปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวนหลายฉบับ ซึ่งระเบียบ คำสั่ง และแนวปฏิบัติบางฉบับมีผลบังคับใช้เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ บางฉบับมีผลบังคับใช้ทั่วราชอาณาจักร เช่น คำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับการพิจารณาคำร้องขอจับกุม และควบคุมตัวบุคคลตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับการพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปเข้ารับการอบรมแทนการดำเนินคดีอาญาตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการใช้กฎหมายทั้งในการศึกษาและปฏิบัติงาน รวมถึงเพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายพิเศษเหล่านี้แก่หน่วยงานรัฐ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ทนายความ นักกฎหมาย ผู้ช่วยทนายความ และประชาชนทั่วไปทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะผู้จัดพิมพ์จึงรวบรวมกฎหมายดังกล่าวและจัดพิมพ์เป็นหนังสือ กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง และระเบียบ คำสั่งและแนวปฎิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่เล่มนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้ใช้ตามสมควร หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดพิมพ์
โดย โครงการส่งเสริมการเข้าถึงความยุติธรรมแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของประเทศไทย มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
โครงการส่งเสริมการเข้าถึงความยุติธรรมแก่ประชาชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของประเทศไทย
มูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ดำเนินโครงการส่งเสริมการเข้าถึงความยุติธรรมซึ่งระยะเวลาดำเนินโครงการเป็นเวลา 2 ปีตั้งแต่เดือนมกราคมพ.ศ. 2554-เดือนธันวาคม พ.ศ. 2555 ที่มุ่งจะให้ความเหลือด้านกฎหมายโดยไม่คิดค่าบริการแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย โครงการมีเป้าประสงค์เพื่อยกระดับและปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการเสริมสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป ภายใต้โครงการพัฒนาสำหรับภาคประชาสังคม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา
กิจกรรมหลักในโครงการฯประกอบไปด้วย: การให้บริการด้านกฎหมายโดยไม่คิดค่าบริการแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทำคดีในเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Litigation) การประชุมคดีระหว่างทนายความและผู้ชำนาญการด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชน การอบรมเพิ่มทักษะให้แก่ทนายความ ผู้ช่วยทนายความ และนักศึกษาคณะนิติศาสตร์
การจัดสัมมนาโดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นหน่วยงานในพื้นที่ หน่วยงานด้านความมั่นคง ผู้มีอำนาจตัดสินใจและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม งานวิจัยและการทำกรณีศึกษาเกี่ยวกับความต้องการการใช้บริการให้ความช่วยเหลือด้านคดีโดยไม่คิดค่าบริการ เสริมให้พนักงานอัยการและศาลมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และการจัดทำข้อเสนอให้กับหน่วยงานของรัฐ การดำเนินการโครงการในครั้งนี้ มีความคาดหวังว่า
1. หน่วยงานในพื้นที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นในการใช้กฎหมายในการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายโดยไม่คิดค่าบริการแก่กลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคม
2. เพิ่มศักยภาพชุมชนเพื่อช่วยให้หน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถยึดถือและปฏิบัติตามกฎหมายในระดับประเทศและมารตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล
3. หน่วยงานในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจมีความรู้และความสามารถในการกำหนดนโยบายมากขึ้น
ช่วยให้เกิดการปฏิรูประบบยุติธรรมอย่างยั่งยืน