เชิญร่วมเข้าสังเกตุการณ์คดีของเหยื่อจากการทรมาน ซึ่งเป็นลูกความของทนายสมชาย นีละไพจิตร โดยถูกฟ้องกลับในข้อหาให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่จากการร้องเรียนเรื่องการถูกทรมาน
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย (The Asian Human Rights Commission: AHRC) ได้รับข้อมูลจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมว่า นายซูดีรือมัน มาเละ หนึ่งในเหยื่อที่อ้างว่าถูกซ้อมทรมานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีคดีปล้นปืน เมื่อปี 2547 ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฟ้องกลับเป็นคดีอาญา ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ อันเนื่องมาจากการเข้าร้องเรียนต่อดีเอสไอ และ ปปง. ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการกระทำอันไม่ชอบของเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าว
ปรากฏว่า ศาลอาญามีคำสั่งรับฟ้องคดีดังกล่าวไว้พิจารณา และกำหนดให้มีการนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 30 มิถุนายน 2554 นี้
คดีนี้ คือ คดีหมายเลขดำที่ อ.2161/2552 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นโจทก์ ฟ้อง นายซูดีรือมัน มาเละ เป็นจำเลย ในข้อหา ความผิดต่อเจ้าพนักงาน และความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173, มาตรา 174 วรรค 2, มาตรา 181 วรรค 2 โดยยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2552 ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้อง และมีคำสั่งว่าคดีมีมูลให้รับฟ้องไว้พิจารณา เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2553
พล.ต.ต. จักรทิพย์ ฟ้องนายซูดีรือมัน ว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 และวันที่ 17 มกราคม 2550 ได้เอาความเท็จไปแจ้งแก่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 ได้แจ้งความอันเป็นเท็จแก่คณะอนุกรรมการไต่สวน
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยข้อความที่ พล.ต.ต. จักรทิพย์อ้างว่าเป็นเท็จ คือข้อความที่นายซูดีรือมันได้ให้การว่า “เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2547 เวลากลางวัน พล.ต.ต. จักรทิพย์กับพวกได้ร่วมกันทำร้าย นายซูดีรือมัน โดยรุมตบที่บ้องหู และเตะตามลำตัวหลายครั้ง ใช้เวลาในการทำร้ายประมาณ 10 นาที เหตุเกิดภายในห้องประชุม สถานีตำรวจภูธรตันหยง” โดย พล.ต.ต. จักรทิพย์อ้างว่า ตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งการให้การเท็จทำให้ตนได้รับความเสียหาย
การที่นายซูดีรือมัน ถูกฟ้องเป็นคดีนี้ สืบเนื่องมาจาก นายซูดีรือมัน กับพวกอีก 5 คน ได้อ้างว่า หลังจากที่พวกเขาถูกจับกุม และควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรตันหยง อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ในคดีจากเหตุการณ์ปล้นปืนค่ายปิเหล็ง เมื่อเดือนมกราคม 2547 ตนกับพวกได้ถูก พล.ต.ท. ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผช. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวก (รวมถึง พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา) ซึ่งเป็นตำรวจชุดจับกุม ซ้อมทรมานเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นตัวการร่วมกันปล้นปืนในคดีดังกล่าว
ต่อมา เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2547 นายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความนักสิทธิมนุษยชน ได้นำนายซูดีรือมัน กับพวกไปร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวในการซ้อมทรมาน และต่อมาในวันที่ 12 มี.ค. 2547 นายสมชายก็ถูกอุ้มหายไป นายซูดีรือมันกับพวกจึงได้รับความคุ้มครองในฐานะพยานของคดีทนายสมชาย โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้คุ้มครองมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับคดีซ้อมทรมาน หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษรับคำร้องทุกข์แล้ว ได้สอบสวน และส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อสอบสวนต่อ ต่อมา เดือนธันวาคม 2553 ป.ป.ช. ได้มีคำวินิจฉัยว่า คดีไม่มีมูล จึงมีคำสั่งยกคำร้องที่ผู้ต้องหาคดีปล้นปืนทั้งห้า ร้องเรียนว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซ้อมทรมาน โปรดดูรายละเอียดที่ (AHRC-FST-105-2010)
ก่อนที่ ป.ป.ช. จะมีคำสั่งไม่รับคำร้องคดีซ้อมทรมานดังกล่าว นายซูดีรือมัน มาเละ ได้เคยถูก พล.ต.ท. ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ในข้อหาความผิดต่อเจ้าพนักงาน และความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานในการยุติธรรม โดยอ้างว่า นายซูดีรือมันถูกกล่าวหาว่าแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2552
ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับที่นายซูดีรือมันถูก พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา คดีนี้ โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2618/2552หมายเลขแดงที่ อ.3303/2552 ต่อมา วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๒ ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้อง และมีคำพิพากษายกฟ้อง ด้วยเหตุผลโดยสรุปว่า จำเลยใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
สำหรับคดีปล้นปืน พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งห้า แต่คดีที่ (ผู้ต้องหาสองคนในห้า) ถูกฟ้องคดีพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำพิพากษายกฟ้อง
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย จึงขอเชิญเข้าสังเกตุการณ์คดี เพื่อให้กำลังใจแก่เหยื่อผู้ถูกทรมาน และเพื่อสังเกตุการณ์คดี สำหรับการที่เหยื่อจากการถูกละเมิดสิทธิถูกดำเนินคดีกลับ โดยเชิญเข้าร่วมฟังการสืบพยานโจทก์-จำเลย ตามวันเวลาดังนี้
เลขคดี: คดีหมายเลขดำที่ อ.2161/2552
ระหว่าง: พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา โจทก์
นายซูดีรือมัน มาเละ จำเลย
ที่: ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: สืบพยานโจทก์ 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2554 เวลา 9.00น. – 16.30 น.
สืบพยานจำเลย 5 – 6 กรกฎาคม 2554 เวลา 9.00น. – 16.30น.